“ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” รักแบบไหนห่างไกลความทุกข์
ความรักคืออะไร❓❓ นิยามความรักในทางโลกคงแปลได้หลากหลายความหมายตามแต่ที่ใครจะคิดพรรณนา แต่แท้ที่จริงแล้ว ภาษาที่เราใช้ออกมามันจะสื่ออะไร มากน้อยแค่ไหน ที่แท้สาระของมันคงมีแค่สองอย่าง คือทำให้เรา“สุข”และทำให้เรา“ทุกข์” แล้วความจริงความรักให้สุข หรือ ให้ทุกข์ กันแน่❓❓
--------------------
พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” ทั้งนี้ด้วยเหตุว่า ความรักแบบโลกๆส่วนใหญ่ มันควบคู่มากับความหลงเข้าใจคลาดเคลื่อนผิดไปจากความเป็นจริง หรือ ที่เรียกว่า โมหะ ในทางพุทธศาสนา คือ “หลงคิด” หรือ เข้าใจผิด เข้าไปยึดถือว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นตัวเรา เป็นของเรา เสร็จแล้วก็คิดและปักใจเชื่อว่าต้องเป็นอย่างนั้นไปเอง ไปแปะป้าย สร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมาเอง เช่น คนนี้คือแฟนของเรา ถ้าเราไม่มีเขาเราจะอยู่ไม่ได้ พอเกิดความทุกข์ก็รู้สึกว่าความทุกข์นี้คือความทุกข์ของเรา ซึ่งเป็นตัวเราเองทั้งนั้นที่เป็นผู้เลือกจะทั้งกอดทั้งเก็บความทุกข์ (ที่เราสร้างขึ้นมาเองในใจ)ไว้ ทั้งๆที่“ความคิด”เหล่านั้นมันไม่ได้มีตัวตนอยู่ให้จับต้องได้เลยสักนิด
--------------------
โมหะ คือความหลง (เหมือนหลงทางอยู่ในเขาวงกต) เป็นต้นเหตุที่ทำให้คนเราทุกข์ ให้เราคิดปรุงแต่งหรือคิดฝันเอาเองไปต่างๆนานาว่าสิ่งไหนหรืออะไรคือทางออก คือสิ่งที่ใช่ เช่นเชื่อไปเองว่าคนนี้ใช่แน่ๆ ทั้งๆที่โดยความจริงแล้วเราไม่ได้รู้จักเขาดีพอเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะโมหะคือความหลงนั้นหลอกให้เราเห็นแต่ด้านที่เราอยากจะเห็น
และโมหะนี้เองเป็นรากเหง้าที่จะงอกออกมาเป็นกิเลสอื่นๆ เช่นโลภะ(อยากให้เขาหรือเธอทำอย่างนั้นอย่างนี้ตามใจเรา) ราคะ(อยากยึดเขามาเป็นของเรา) และโทสะ(เมื่อเขาหรือเธอไม่ทำตาม หรือไม่ได้อย่างที่ใจเราอยากให้เป็น ก็โกรธ งอน งอแง อาละวาด จองเวรและอื่นๆ)
--------------------
ดังนั้นความรักแบบโลกที่เป็นความหลงแบบโมหะ ไม่ได้รู้เห็นตามจริง จึงเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหา เกิดทุกข์ ด้วยเหตุนี้หากเราต้องการมีความสุข เราก็ต้องรู้จักรักให้เป็นคือ ไม่หลงไปทำตามกิเลส ยกตัวอย่างความรักแบบไม่มีกิเลสและไม่มีเงื่อนไขเช่น ความรักของพระพุทธองค์ที่ทรงมีต่อสัตว์โลก ความรักชนิดนี้ไม่นำพาให้เกิดทุกข์ทั้งต่อผู้ให้และผู้รับ ความรักชนิดนี้ ภาษาธรรมเรียกว่า ความรักแบบพรหมวิหาร ๔ คือ มีเมตตา(ต้องการให้ผู้อื่นมีความสุข) กรุณา(ต้องการให้ผู้อื่นพ้นจากทุกข์) มุทิตา(พลอยยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นเป็นสุข) อุเบกขา(มีความเป็นกลางต่อความมุ่งหวังทั้งหมดนั้น) โดยเฉพาะอุเบกขาที่กล่าวได้ว่าเป็นตัวปัญญานั้นมีความสำคัญมากจนต้องระบุควบคู่ไว้ว่าถ้าขาดอุเบกขาก็ไม่ใช่เมตตาไม่ใช่รักอย่างฉลาด เพราะไม่รู้จักปล่อยวาง โดยนัยยะนี้ การมีอุเบกขาคือ การทำดีโดยใจไม่ทุกข์ เรียกว่ารักได้อย่างบริสุทธิ์ออกมาจากใจ ทำดีที่สุดแล้วก็ไม่หวังผล ไม่หวังว่าตัวเราจะได้อะไร ไม่หวังว่าคนรับได้แล้วต้องเห็นคุณค่า(อย่างที่ใจเราต้องการ)หรือไม่
--------------------
ถ้าจะพูดกันให้เข้าใจง่ายขึ้น หลง กับ รัก ต่างกันชัดเจนที่ความรู้สึกอยากได้ หรืออยากให้นั่นเอง จะทุกข์หรือจะสุขก็วัดกันที่ตรงนี้เช่นกันคือ ที่คิดว่าขาดความรักก็เพราะคิดว่าความรักคือการได้มาหรือได้ครอบครอง แต่ถ้าเข้าใจเสียใหม่ว่าความรักคือการให้ ก็จะไม่รู้สึกขาดเลย
ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความรู้สึกอยากได้อะไรจากเขาหรือเธอ นั่นก็แปลว่าคุณกำลัง “หลง” คือ หลงไปยึด ความอยาก ความคาดหวัง จะพาให้ใจเป็นทุกข์ เมื่อไม่ได้ดังหวัง ก็เป็นทุกข์
--------------------
แต่ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าเราเพียงต้องการจะ “ให้” เพื่อให้เขาเป็นสุขโดยไม่ได้ยึดมั่นว่าต้องการอะไรจากเขาหรือเธอ นั่นคือ “รัก” แบบเมตตาที่เป็นพรหมวิหารธรรม ถ้าให้แล้วเขาหรือเธอไม่รัก ก็ไม่ทุกข์ใจ เพราะมีอุเบกขาไปพร้อมกัน ใจไม่เกาะ ไม่ยึด ก็ไม่ทุกข์
ดังนั้นถ้าเราเข้าใจอย่างถูกต้องก็จะรู้ว่าที่เรามีทุกข์นั้นเพราะเราเป็นคนเลือกเอง ที่บอกว่ารักมันทำร้ายเรา จริงๆแล้วไม่ใช่เลย มันเป็นเพราะเราไม่รู้จักรักเองต่างหาก ที่คนเราทุกข์เพราะความรักนั้น ไม่ใช่ทุกข์เพราะการให้ แต่ทุกข์เพราะอยากแล้วไม่ได้ ที่เราเคยบอกว่า รักเขาเหลือเกิน รักเธอที่สุดในโลกนั้น เราควรย้อนกลับมาดูที่ใจตัวเองก่อนว่าแท้จริงแล้ว เราเรียกสิ่งนั้นว่า“รัก”ได้จริงหรือ การกระทำใดที่เราทำให้เขาหรือเธอนั้น เราทำเพื่ออยากให้เขามีความสุข หรือ อยากให้ตัวเรามีความสุข
- สีผึ้งนางมัทรีอิ่นทราวดี -
**สุดยอดมหาเสน่ห์เมตตาพารวย**
"สีผึ้งนางมัทรี" มนตรามหาเสน่ห์แห่งล้านนา มีพลังอำนาจอิทธิคุณวิเศษยิ่งเรื่องความรัก เมตตามหานิยม เสริมชะตา บารมี อำนาจ ตบะ เดชะเป็นมงคลแก่ตนเอง ทั้งโชคลาภ เงินทอง คนรักใคร่เมตตา ค้าขายประสบความสำเร็จ เป็นมหาเศรษฐีมั่งมี มั่งคั่ง มีกินไม่มีหมดจนไม่เป็น มีฤทธิ์เรียกคนทั้งหลายให้รักใคร่เมตตา เทวดาเอ็นดูค้ำชูช่วยเหลือ เรียกคน เรียกรัก เรียกทรัพย์ เรียกลาภ ผู้ใดบูชาถูกใช้เป็นก็ดั่งมีแก้วสารพัดนึก ถือเป็นวาสนามหามงคลแก่บุคคลผู้นั้น
หยิบจับอะไรก็มีกำไร พูดอะไรก็ขายได้ เสนออะไรก็ขายดี เจรจาต่อรองธุรกิจการค้าสำเร็จ มีอำนาจมหาเสน่ห์ชนะใจคนทั้งหลาย เข้าหาผู้ใหญ่ ก็เมตตาเอ็นดู ทวงหนี้ทวงสินลูกหนี้ใจอ่อน ผลัดผ่อนหนี้ เจ้าหนี้เมตตา คนรักร้างราเบื่อหน่ายก็อยากจะกลับมารัก กลับมาหาดังเดิม เรียกจิตมัดใจคนไกลให้กลับมารักมาใคร่ มีจิตพันผูกแสนรัก แสนหลง คนโสดไร้คู่ จะพบคู่แท้จะมีคู่ดี ไปไหนมาไหน จะมีแต่คนรัก คนทัก คนเมตตานิยมชื่นชม ชื่นชอบ ค้าขายดี เงินทองไหลมาเทมา
✔️ คนที่ไม่เคยมีใครรักก็กลับมามีแต่คนเมตตารักใคร่
✔️ ที่ทำมาหากินไม่ขึ้นก็กลับมาค้าขายดีมีกำไร
✔️ หนี้สินล้นตัว ก็จะมีโชคลาภ มี
✔️ ชีวิตที่เคยอับเฉาก็จะมีพลัง มีชีวิตชีวา ไม่แห้งเหี่ยวอีกต่อไป
✔️ ความรักพลัดพรากแหนงหน่ายก็จะกลับมาดี มีเมตตาต่อกัน หรือเจอรักใหม่ที่สดในดี งาม ศีลเสมอธรรมเสมือนบุญสมานกัน
✔️ ดึงดูดจิตมัดใจเพศตรงข้ามให้เมตตา รักใคร่ต้องจิตต้องใจ
✔️ ผู้ใหญ่อยู่ใกล้ใจอ่อน เอ็นดูรักใคร่ หายโกรธหายเกลียด
✔️ เจ้าหนี้เมตตา ลูกหนี้เห็นใจ
✔️ ลูกค้าติดใจ จากไปแล้วต้องกลับมา ซื้อง่ายคล่อง
✔️ คุ้มครองให้แคล้วคลาด ลดเคราะห์ร้ายให้เบา กลับสิ่งร้ายให้ดี
✔️ จะบังเกิดสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิต
✔️ จะพลิกชะตาจากที่ร้ายกลายเป็นดีอย่างไม่น่าเชื่อ
✔️ จะบังเกิดสิ่ง ที่ดี ๆ หลั่งไหลเข้ามาในชีวิต
✔️ นึกคิดอะไร สำเร็จ สมปรารถนาได้ดั่งใจ
สีผึ้งจะดีจะวิเศษเต็มกำลังครู ก็เมื่อผู้ใช้สีผึ้งนี้รักษาวาจาใจ ไม่ละเมิดศีลข้อ 4. พูดจาไพเราะเสนาะหู เย็นกาย-จิตใจเย็นมีเมตตา ยิ้มแย้มแจ่มใส วาจาอ่อนหวาน ไม่พูดเพ้อเจ้อส่อเสียดหยาบคาย หมั่นสวดคาถาบูชาสีผึ้ง ปลุกฤทธิ์อิ่น เช้าค่ำ ชีวิตจะดีดวงจะดี ราศีเด่น การงานดี การเงินดี ครอบครัวดี ความรักดีผิวพรรณผ่องใส กายสว่าง มีสง่า มีราศีดี .. คือสุดยอดแห่งเสน่ห์เมตตามหานิยม
หยิบจับอะไรก็มีกำไร พูดอะไรก็ขายได้ เสนออะไรก็ขายดี เจรจาต่อรองธุรกิจการค้าสำเร็จ มีอำนาจมหาเสน่ห์ชนะใจคนทั้งหลาย เข้าหาผู้ใหญ่ ก็เมตตาเอ็นดู ทวงหนี้ทวงสินลูกหนี้ใจอ่อน ผลัดผ่อนหนี้ เจ้าหนี้เมตตา คนรักร้างราเบื่อหน่ายก็อยากจะกลับมารัก กลับมาหาดังเดิม เรียกจิตมัดใจคนไกลให้กลับมารักมาใคร่ มีจิตพันผูกแสนรัก แสนหลง คนโสดไร้คู่ จะพบคู่แท้จะมีคู่ดี ไปไหนมาไหน จะมีแต่คนรัก คนทัก คนเมตตานิยมชื่นชม ชื่นชอบ ค้าขายดี เงินทองไหลมาเทมา
✔️ คนที่ไม่เคยมีใครรักก็กลับมามีแต่คนเมตตารักใคร่
✔️ ที่ทำมาหากินไม่ขึ้นก็กลับมาค้าขายดีมีกำไร
✔️ หนี้สินล้นตัว ก็จะมีโชคลาภ มี
✔️ ชีวิตที่เคยอับเฉาก็จะมีพลัง มีชีวิตชีวา ไม่แห้งเหี่ยวอีกต่อไป
✔️ ความรักพลัดพรากแหนงหน่ายก็จะกลับมาดี มีเมตตาต่อกัน หรือเจอรักใหม่ที่สดในดี งาม ศีลเสมอธรรมเสมือนบุญสมานกัน
✔️ ดึงดูดจิตมัดใจเพศตรงข้ามให้เมตตา รักใคร่ต้องจิตต้องใจ
✔️ ผู้ใหญ่อยู่ใกล้ใจอ่อน เอ็นดูรักใคร่ หายโกรธหายเกลียด
✔️ เจ้าหนี้เมตตา ลูกหนี้เห็นใจ
✔️ ลูกค้าติดใจ จากไปแล้วต้องกลับมา ซื้อง่ายคล่อง
✔️ คุ้มครองให้แคล้วคลาด ลดเคราะห์ร้ายให้เบา กลับสิ่งร้ายให้ดี
✔️ จะบังเกิดสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิต
✔️ จะพลิกชะตาจากที่ร้ายกลายเป็นดีอย่างไม่น่าเชื่อ
✔️ จะบังเกิดสิ่ง ที่ดี ๆ หลั่งไหลเข้ามาในชีวิต
✔️ นึกคิดอะไร สำเร็จ สมปรารถนาได้ดั่งใจ
สีผึ้งจะดีจะวิเศษเต็มกำลังครู ก็เมื่อผู้ใช้สีผึ้งนี้รักษาวาจาใจ ไม่ละเมิดศีลข้อ 4. พูดจาไพเราะเสนาะหู เย็นกาย-จิตใจเย็นมีเมตตา ยิ้มแย้มแจ่มใส วาจาอ่อนหวาน ไม่พูดเพ้อเจ้อส่อเสียดหยาบคาย หมั่นสวดคาถาบูชาสีผึ้ง ปลุกฤทธิ์อิ่น เช้าค่ำ ชีวิตจะดีดวงจะดี ราศีเด่น การงานดี การเงินดี ครอบครัวดี ความรักดีผิวพรรณผ่องใส กายสว่าง มีสง่า มีราศีดี .. คือสุดยอดแห่งเสน่ห์เมตตามหานิยม
มวลสารทนสิทธิ์สำคัญๆพระอาจารย์ท่านเมตตาบอกไว้ดังนี้
นางผึ้งทั้ง 6 คือ นางผ่า นางกุ๋ม นางกวัก นางเหลียว นางหาบ และนางธรณี(เป็นปริศนาบอกลักษณะของรังผึ้งที่เป็นมวลสารในการสร้างสีผึ้งนี้) ว่านยาเสน่ห์เมตตามหานิยมคงกระพันโชคลาภ 108 ชนิด หัวน้ำมันจันทร์หอมที่ปลุกเสกอาบแสงจันทร์แช่ตะกรุดทองคำพระลักษณ์หน้าทอง 22 คืนเพ็ญเต็มดวง และมวลสารมงคลอื่นๆอันเป็นความลับจากปั๊บสาตำราโบราณอีกมาก เมื่อจะหุงต้องหาไม้มงคล 9 อย่างมาทำฟืน และเสกในกองฟอนร้อนรุ่ม ในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำอันต้องตรงกับกับวันจันทร์พระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น..."เรียกว่า จันทร์ซ้อนจันทร์"
" จันทร์ซ้อนจันทร์ " พลังแห่งโชคลาภ มหาเมตตา มหานิยม
ตามตำราโบราณแห่งไสยเวทย์ " วันจันทร์เป็นวันแห่งเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ " หากเป็นวันจันทร์ที่จันทร์เพ็ญเต็มดวง จะยิ่งเข้มขลังในพลังเมตตาโชคลาภมากเป็นทวีคูณ พระจันทร์มีอิทธิพลต่ออารมณ์ ความรัก ความใคร่ของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ถือกันว่า..คืนใดก็ตามที่พระจันทร์มาทาบทับเต็มดวงในวันจันทร์ คืนนั้นจะเป็นคืนอาถรรพ์มาก เป็นมหาฤกษ์ปลุกเสกเครื่องรางด้านมหาเสน่ห์เมตตาโชคลาภ จะเพิ่มฤทธีความข่าม ขลัง ให้เครื่องรางอย่างยิ่งฯ เพราะได้กำลังจันทร์ซ้อนทับกันถึงสองเท่า อำนาจแห่งเมตตาเรียกจิตมัดใจนั้นจะมีอานุภาพแรงขี้นทวีคูณ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
"อิ่นทราวดี" ในสีผึ้งนางมัทรี
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ปลุกเสก ปั้น เผา ร่ายเวทย์เรียกสูตรครบธาตุ "ดิน น้ำ ลม ไฟ " ปลุกคาถาแช่น้ำมันจันทร์หอมและว่านยามหาเสน่ห์ 108 อาบแสงจันทร์ 22 คืนเพ็ญ ร่ายมนต์เรียกสูตรปลุกอักขระด้วยวิชาเร้นลับจนเกิดวิญญานธาตุภายใน มีฤทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม มหาอำนาจ ดลบันดาลได้พันช่องพันเรื่อง ตามแต่อธิษฐาน
วัตถุดี มวลสารดี ผู้สร้างดี ปลุกเสกดี ฤกษ์ดี "อิ่น" นั้นฤทธีแรง อำนาจอิทธิคุณสูงยิ่งประมาณมิได้เลย "อิ่นทราวดี" เนื้อทราวดีโบราณ และดินอาถรรพ์จาก10 สถานที่สวยงามคนนิยม ดิน10 ร้านอาหารขายดีมากคนนิยม มีมวลสารว่านมงคล ว่านยามหาเสน่ห์เมตตาครบสูตร แก้วโป่งข่ามรัตนชาติศักดิ์สิทธิ์บด 12 ชนิด กาฝาก9ชนิด กาฝากกาหลง-รักซ้อน-มะยม-มะรุม-มะขาม -ขนุน--ยอ-คูณ-พยูง (อานุภาพกาฝาก คือ ได้อะไรมาง่ายๆป้อนถึงปาก ชีวิตไม่ลำบาก มีมหาเสน่ห์ดึงดูดจิตผูกมัดใจผู้คน มีเมตตา มหานิยม มหาอำนาจ มั่งมีโชคลาภ ค้าขายดี แคล้วคลาด กันภัย*) และมวลสารอาถรรพ์ทนสิทธิ์อันเป็นความลับจากปั๊บสาตำราไสยเวทย์ล้านนาโบราณ
"อิ่น" คือศาสตร์วิชาเร้นลับแห่งเครื่องรางมหาเสน่ห์ชั้นสูงของล้านนา เป็นเครื่องรางแห่งความรัก การหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ความสมบูรณ์แห่งพลังชีวิต การก่อกำเนิดสรรพสิ่งจากความรักใคร่เมตตา อันนำไปสู่ความสมดุลย์สมบูรณ์ ความสุข ความมีชีวิตชีวา ความสำเร็จ สมปรารถนาทั้งปวงนานานัปประการของชีวิต
ท่านว่า..ใครบูชาอิ่นถูกใช้อิ่นเป็น ผู้นั้นจะมีมหาอำนาจ มหาเสน่ห์เมตตามหานิยมในตนเองอย่างประมาณมิได้เลย ความรัก ความสุข เงินทอง ทรัพย์สิน ลาภยศ จะหลั่งไหลเข้ามามิขาด คิดสิ่งใด ปรารถนาสิ่งใด แม้ว่ายากเกินกำลัง สิ่งนั้นก็จะสำเร็จทุกประการแล !!!
อิ่นมหาเสน่ห์อันดับหนึ่งเบญจภาคีเครื่องรางล้านนานี้ เล่าขานกันว่า..คือเครื่องรางชั้นสูง บ้านใดมีอิ่นไว้ในบ้านๆนั้นก็จะมีแต่ความรักไม่มีเรื่องให้ทะเลาะหรือผิดใจกัน เป็นเครื่องรางที่ควรมีติดกาย ติดบ้านเรือน ติดห้องนอนห้องหอ ชนชั้นสูง เจ้าขุนมูลนาย จะหวงแหนกันมาก จะมอบอิ่นอันศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่ไว้ให้ลูกหลานในวันแต่งงาน และเป็นของขวัญสูงค่าที่คนรักจะมอบให้แก่กันและกัน
"อิ่น" เป็นเครื่องหมายแห่งความรัก แรงมากในด้านมหานิยมมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เป็นที่หนึ่งด้านมหาเสน่ห์ มหานิยม ช่วยในเรื่องการเจรจาค้าขาย เข้าหาเจ้านาย เป็นที่รักของคนและเทวดา รวมไปถึง แคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจดลบันดาลพันช่องพันประการ กันภูตผีปีศาจ แม้แต่เทวดาอยู่บนชั้นฟ้า ยังต้องลงมาปกปักรักษาดูแลผู้ที่มีอิ่นไว้ครอบครอง
▬▬▬▬▬▬▬
** วิธีใช้ **
▬▬▬▬▬▬▬
** สวดปลุกฤทธิ์อิ่น ** มีเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ว่า อิ่นในสีผึ้งนางมัทรีนี้ มีอำนาจอิทธิคุณด้านความรักใคร่เสน่หารุนแรงยิ่ง อีกทั้งบันดาลโชคลาภ ความสำเร็จนานับประการ ครูบาอาจารย์ท่านว่า..ใครสวดปลุกฤทธิ์อิ่นยิ่งมาก ยิ่งบ่อย ด้วยจิตนิ่งสงบ โปร่งเบาสบาย สุข สงบ สว่าง เปี่ยมด้วยความรักใคร่เมตตา " อิ่น " ของผู้นั้นจะยิ่งมีอำนาจ มีฤทธิ์อิทธิคุณในการดลบัดาลแรงยิ่งนักฯ
หากต้องการเรื่องความรักเมตตาสเน่หาอาวรณ์ .. ใช้นิ้วนางข้างซ้าย แตะอิ่นในสีผึ้ง ร่ายคาถาบูชาสีผึ้งปลุกฤทธิ์อิ่น สวดจบแล้วตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา เจิมสีผึ้ง ๑๕ ตำแหน่ง อยากได้เรื่องใดมากก็เน้นๆ ตำแหน่งนั้นตามต้องการ
หากต้องการอำนาจ เดชะ โชคลาภ การงาน ความสำเร็จ ค้าขายดี เรียกคนทั้งหลาย.. ใช้นิ้วชี้ข้างขวา แตะอิ่นในสีผึ้ง ร่ายคาถาบูชาสีผึ้งปลุกฤทธิ์อิ่น สวดจบแล้วตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา เจิมสีผึ้ง ๑๕ ตำแหน่ง อยากได้เรื่องใดมากก็เน้นๆ ตำแหน่งนั้นตามต้องการ
▬▬▬▬▬▬▬
หมั่นสวดบูชาคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น ค่ำเช้า ตั้งใจสวดกี่จบก็สวดตามนั้น (ยิ่งมากยิ่งดี) แต่จบสุดท้ายให้สวดแบบ"ปิดทวาร" แล้วจึงตั้งจิตตั้งใจอธิษฐาน
" สวดปิดทวาร " เป็นเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ ที่มีอำนาจ มีฤทธิ์อิทธิคุณเสริมพระเวทย์คาถาให้มีพลังอำนาจดลบันดาลให้ทุกคำอธิษฐานสำเร็จสัมฤทธิ์เป็นจริง ให้หมั่นปฎิบัติเสมอๆ )
ครูบาอาจารย์ท่านจึงย้ำเสมอว่า เวทย์คาถาให้ท่องจำขึ้นห้ามอ่าน!!
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
- เจิมสีผึ้งนางมัทรีแบบเต็มสูตร -
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
๑. "หน้าผาก" เป็นจุดที่เห็นเด่นชัดที่สุดบนใบหน้า เป็นจุดรวมสิริบนในหน้า คนนิยมชมชอบ บันดาลโชคลาภ
๒. "ทาคิ้ว" เป็นมหาเสน่ห์ เกิดสง่าบารมี
๓. "เปลือกตา" ยามสบตายามกระพริบตา ผู้ที่มองเห็นเราจะรู้สึกรัก เมตตา นิยมชมชอบเรา
๔. "แก้ม" เกิดมหาเมตตาอย่างประเสริฐ เรียกว่าตำแหน่งพรมสี่หน้า เป็นเลิศด้านเมตตามหานิยม มหากันแก้อุปสรรค แคล้วคลาดอันตราย ป้องกันคุณไสย เปิดทางเงินทอง เร่งโชคลาภให้ไหลมาเทมา ค้าขายดี เสริมดวง เสริมดี มีโชค มีชัยชนะ
๔. "กราม" พูดสิ่งใดมีอำนาจบารมี น่าเชื่อถือ
๕. "ติ่งหู๒ข้าง" เป็นที่สถิตของเทวดารักษาอายุ
๖. "ท้ายทอย" เป็นสง่าราศีเป็นที่รักใคร่เอ็นดู น่าหลงไหล
๗. "ริมฝีปาก" วาจาไพเราะเสียงเพราะ พูดอะไรน่าฟัง น่าเชื่อถือ ฟังแล้วคล้อยตาม คนรักใคร่เอ็นดู วาจาบันดาลโชคลาภ พูดเรื่องยากให้ง่าย ปราถนาสิ่งใด พูดไปสำเร็จสมดั่งใจ เข้าเจ้าเข้านาย ผู้ใหญ่เอ็นดู คนรักเมตตา บิดามารดาใจอ่อน
๘. "กระหม่อม" เป็นจุดเข้าออกวิญญานและปราณพลังชีวิต เป็นจุดศูนย์รวมของพลังชีวิตมนุษย์ และเป็นที่สถิตของเทวดารักษาตน
๙. "คาง" ทำให้น่าเคารพยำเกรง มีอำนาจ ตบะ เดชะ บารมี
๑๐. "อก" เป็นมหาเสน่หารุนแรง กริยาเย้ายวนน่าหลงไหล
๑๑. "ทาท้องน้อย" เป็นมหาเสน่ห์ น่าหลงไหลรักใคร่ไหลหลง ติดตราตรึงใจมิเสื่อมคลายเลย.
๑๒. "หน้าแข้ง" ผีสาง สัตว์ร้าย งูเขี้ยวขอไม่มารบกวน แคล้วคลาดกันภัย 108 ประการ
๑๓. "โคนนิ้วทั้งสิบ" หยิบจับสิ่งใดมีพลังอำนาจ ประสบความสำเร็จทุกปราการ
๑๔. "ปลายนิ้วชี้ทั้งสอง" นิ้วมหาอำนาจ มหาเสน่ห์ ชี้สิ่งใดได้สิ่งนั้น สำเร็จสมปรารถนาทั้งสิ้นแลฯ
๑๕. "ฝ่ามือทั้งสอง" หยิบจับสัมผัสสิ่งใด เกิดมหาเสน่ห์ เกิดมหามงคล จับสินค้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จับเสื้อผ้า จับหน้า จับผม เทวดารัก คนหลง เจ้านายนิยม บริวารเชื่อฟัง ญาติมิตรเกื้อกูลช่วยเหลือ ศรัตรูแพ้พ่าย
" จันทร์ซ้อนจันทร์ " พลังแห่งโชคลาภ มหาเมตตา มหานิยม
ตามตำราโบราณแห่งไสยเวทย์ " วันจันทร์เป็นวันแห่งเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ " หากเป็นวันจันทร์ที่จันทร์เพ็ญเต็มดวง จะยิ่งเข้มขลังในพลังเมตตาโชคลาภมากเป็นทวีคูณ พระจันทร์มีอิทธิพลต่ออารมณ์ ความรัก ความใคร่ของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ถือกันว่า..คืนใดก็ตามที่พระจันทร์มาทาบทับเต็มดวงในวันจันทร์ คืนนั้นจะเป็นคืนอาถรรพ์มาก เป็นมหาฤกษ์ปลุกเสกเครื่องรางด้านมหาเสน่ห์เมตตาโชคลาภ จะเพิ่มฤทธีความข่าม ขลัง ให้เครื่องรางอย่างยิ่งฯ เพราะได้กำลังจันทร์ซ้อนทับกันถึงสองเท่า อำนาจแห่งเมตตาเรียกจิตมัดใจนั้นจะมีอานุภาพแรงขี้นทวีคูณ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
"อิ่นทราวดี" ในสีผึ้งนางมัทรี
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
วัตถุดี มวลสารดี ผู้สร้างดี ปลุกเสกดี ฤกษ์ดี "อิ่น" นั้นฤทธีแรง อำนาจอิทธิคุณสูงยิ่งประมาณมิได้เลย "อิ่นทราวดี" เนื้อทราวดีโบราณ และดินอาถรรพ์จาก10 สถานที่สวยงามคนนิยม ดิน10 ร้านอาหารขายดีมากคนนิยม มีมวลสารว่านมงคล ว่านยามหาเสน่ห์เมตตาครบสูตร แก้วโป่งข่ามรัตนชาติศักดิ์สิทธิ์บด 12 ชนิด กาฝาก9ชนิด กาฝากกาหลง-รักซ้อน-มะยม-มะรุม-มะขาม -ขนุน--ยอ-คูณ-พยูง (อานุภาพกาฝาก คือ ได้อะไรมาง่ายๆป้อนถึงปาก ชีวิตไม่ลำบาก มีมหาเสน่ห์ดึงดูดจิตผูกมัดใจผู้คน มีเมตตา มหานิยม มหาอำนาจ มั่งมีโชคลาภ ค้าขายดี แคล้วคลาด กันภัย*) และมวลสารอาถรรพ์ทนสิทธิ์อันเป็นความลับจากปั๊บสาตำราไสยเวทย์ล้านนาโบราณ
"อิ่น" คือศาสตร์วิชาเร้นลับแห่งเครื่องรางมหาเสน่ห์ชั้นสูงของล้านนา เป็นเครื่องรางแห่งความรัก การหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ความสมบูรณ์แห่งพลังชีวิต การก่อกำเนิดสรรพสิ่งจากความรักใคร่เมตตา อันนำไปสู่ความสมดุลย์สมบูรณ์ ความสุข ความมีชีวิตชีวา ความสำเร็จ สมปรารถนาทั้งปวงนานานัปประการของชีวิต
ท่านว่า..ใครบูชาอิ่นถูกใช้อิ่นเป็น ผู้นั้นจะมีมหาอำนาจ มหาเสน่ห์เมตตามหานิยมในตนเองอย่างประมาณมิได้เลย ความรัก ความสุข เงินทอง ทรัพย์สิน ลาภยศ จะหลั่งไหลเข้ามามิขาด คิดสิ่งใด ปรารถนาสิ่งใด แม้ว่ายากเกินกำลัง สิ่งนั้นก็จะสำเร็จทุกประการแล !!!
อิ่นมหาเสน่ห์อันดับหนึ่งเบญจภาคีเครื่องรางล้านนานี้ เล่าขานกันว่า..คือเครื่องรางชั้นสูง บ้านใดมีอิ่นไว้ในบ้านๆนั้นก็จะมีแต่ความรักไม่มีเรื่องให้ทะเลาะหรือผิดใจกัน เป็นเครื่องรางที่ควรมีติดกาย ติดบ้านเรือน ติดห้องนอนห้องหอ ชนชั้นสูง เจ้าขุนมูลนาย จะหวงแหนกันมาก จะมอบอิ่นอันศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่ไว้ให้ลูกหลานในวันแต่งงาน และเป็นของขวัญสูงค่าที่คนรักจะมอบให้แก่กันและกัน
"อิ่น" เป็นเครื่องหมายแห่งความรัก แรงมากในด้านมหานิยมมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เป็นที่หนึ่งด้านมหาเสน่ห์ มหานิยม ช่วยในเรื่องการเจรจาค้าขาย เข้าหาเจ้านาย เป็นที่รักของคนและเทวดา รวมไปถึง แคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจดลบันดาลพันช่องพันประการ กันภูตผีปีศาจ แม้แต่เทวดาอยู่บนชั้นฟ้า ยังต้องลงมาปกปักรักษาดูแลผู้ที่มีอิ่นไว้ครอบครอง
▬▬▬▬▬▬▬
** วิธีใช้ **
▬▬▬▬▬▬▬
** สวดปลุกฤทธิ์อิ่น ** มีเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ว่า อิ่นในสีผึ้งนางมัทรีนี้ มีอำนาจอิทธิคุณด้านความรักใคร่เสน่หารุนแรงยิ่ง อีกทั้งบันดาลโชคลาภ ความสำเร็จนานับประการ ครูบาอาจารย์ท่านว่า..ใครสวดปลุกฤทธิ์อิ่นยิ่งมาก ยิ่งบ่อย ด้วยจิตนิ่งสงบ โปร่งเบาสบาย สุข สงบ สว่าง เปี่ยมด้วยความรักใคร่เมตตา " อิ่น " ของผู้นั้นจะยิ่งมีอำนาจ มีฤทธิ์อิทธิคุณในการดลบัดาลแรงยิ่งนักฯ
หากต้องการเรื่องความรักเมตตาสเน่หาอาวรณ์ .. ใช้นิ้วนางข้างซ้าย แตะอิ่นในสีผึ้ง ร่ายคาถาบูชาสีผึ้งปลุกฤทธิ์อิ่น สวดจบแล้วตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา เจิมสีผึ้ง ๑๕ ตำแหน่ง อยากได้เรื่องใดมากก็เน้นๆ ตำแหน่งนั้นตามต้องการ
หากต้องการอำนาจ เดชะ โชคลาภ การงาน ความสำเร็จ ค้าขายดี เรียกคนทั้งหลาย.. ใช้นิ้วชี้ข้างขวา แตะอิ่นในสีผึ้ง ร่ายคาถาบูชาสีผึ้งปลุกฤทธิ์อิ่น สวดจบแล้วตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา เจิมสีผึ้ง ๑๕ ตำแหน่ง อยากได้เรื่องใดมากก็เน้นๆ ตำแหน่งนั้นตามต้องการ
▬▬▬▬▬▬▬
หมั่นสวดบูชาคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น ค่ำเช้า ตั้งใจสวดกี่จบก็สวดตามนั้น (ยิ่งมากยิ่งดี) แต่จบสุดท้ายให้สวดแบบ"ปิดทวาร" แล้วจึงตั้งจิตตั้งใจอธิษฐาน
" สวดปิดทวาร " เป็นเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ ที่มีอำนาจ มีฤทธิ์อิทธิคุณเสริมพระเวทย์คาถาให้มีพลังอำนาจดลบันดาลให้ทุกคำอธิษฐานสำเร็จสัมฤทธิ์เป็นจริง ให้หมั่นปฎิบัติเสมอๆ )
ครูบาอาจารย์ท่านจึงย้ำเสมอว่า เวทย์คาถาให้ท่องจำขึ้นห้ามอ่าน!!
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
- เจิมสีผึ้งนางมัทรีแบบเต็มสูตร -
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
๑. "หน้าผาก" เป็นจุดที่เห็นเด่นชัดที่สุดบนใบหน้า เป็นจุดรวมสิริบนในหน้า คนนิยมชมชอบ บันดาลโชคลาภ
๒. "ทาคิ้ว" เป็นมหาเสน่ห์ เกิดสง่าบารมี
๓. "เปลือกตา" ยามสบตายามกระพริบตา ผู้ที่มองเห็นเราจะรู้สึกรัก เมตตา นิยมชมชอบเรา
๔. "แก้ม" เกิดมหาเมตตาอย่างประเสริฐ เรียกว่าตำแหน่งพรมสี่หน้า เป็นเลิศด้านเมตตามหานิยม มหากันแก้อุปสรรค แคล้วคลาดอันตราย ป้องกันคุณไสย เปิดทางเงินทอง เร่งโชคลาภให้ไหลมาเทมา ค้าขายดี เสริมดวง เสริมดี มีโชค มีชัยชนะ
๔. "กราม" พูดสิ่งใดมีอำนาจบารมี น่าเชื่อถือ
๕. "ติ่งหู๒ข้าง" เป็นที่สถิตของเทวดารักษาอายุ
๖. "ท้ายทอย" เป็นสง่าราศีเป็นที่รักใคร่เอ็นดู น่าหลงไหล
๗. "ริมฝีปาก" วาจาไพเราะเสียงเพราะ พูดอะไรน่าฟัง น่าเชื่อถือ ฟังแล้วคล้อยตาม คนรักใคร่เอ็นดู วาจาบันดาลโชคลาภ พูดเรื่องยากให้ง่าย ปราถนาสิ่งใด พูดไปสำเร็จสมดั่งใจ เข้าเจ้าเข้านาย ผู้ใหญ่เอ็นดู คนรักเมตตา บิดามารดาใจอ่อน
๘. "กระหม่อม" เป็นจุดเข้าออกวิญญานและปราณพลังชีวิต เป็นจุดศูนย์รวมของพลังชีวิตมนุษย์ และเป็นที่สถิตของเทวดารักษาตน
๙. "คาง" ทำให้น่าเคารพยำเกรง มีอำนาจ ตบะ เดชะ บารมี
๑๐. "อก" เป็นมหาเสน่หารุนแรง กริยาเย้ายวนน่าหลงไหล
๑๑. "ทาท้องน้อย" เป็นมหาเสน่ห์ น่าหลงไหลรักใคร่ไหลหลง ติดตราตรึงใจมิเสื่อมคลายเลย.
๑๒. "หน้าแข้ง" ผีสาง สัตว์ร้าย งูเขี้ยวขอไม่มารบกวน แคล้วคลาดกันภัย 108 ประการ
๑๓. "โคนนิ้วทั้งสิบ" หยิบจับสิ่งใดมีพลังอำนาจ ประสบความสำเร็จทุกปราการ
๑๔. "ปลายนิ้วชี้ทั้งสอง" นิ้วมหาอำนาจ มหาเสน่ห์ ชี้สิ่งใดได้สิ่งนั้น สำเร็จสมปรารถนาทั้งสิ้นแลฯ
๑๕. "ฝ่ามือทั้งสอง" หยิบจับสัมผัสสิ่งใด เกิดมหาเสน่ห์ เกิดมหามงคล จับสินค้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จับเสื้อผ้า จับหน้า จับผม เทวดารัก คนหลง เจ้านายนิยม บริวารเชื่อฟัง ญาติมิตรเกื้อกูลช่วยเหลือ ศรัตรูแพ้พ่าย
** สวดคาถาบูชาสีผึ้งปลุกฤทธิ์อิ่น ** ทุกเช้า-ค่ำ เจิมทา ๑๕ จุดนี้ด้วยจิตนิ่งมีกำลัง มีสติ ไม่ต้องใช้มาก เพียงแตะนิดหน่อยเท่านั้น ยกเว้น " ริมฝีปาก " ให้หมั่นเจิมทาบ่อยๆ นึกได้ก็สวดคาถาแตะอิ่นเจิมสีผึ้งทาริมฝีปากบ่อยๆ ตลับสีผึ้งให้พกติดตัว กลัดติดเสื้อไว้ ติดเนื้อติดตัวไว้ เป็นสุดยอดแห่งมหาเสน่ห์เมตตา หนุนชะตาวาสนา เสริมบารมี ให้เจอแต่สิ่งดีดี แคล้วคลาดปลอดภัย
หากทำได้ดังนี้บ่อยๆ คำอธิษฐานจะสำเร็จเป็นจริงอย่างไม่มีข้อยกเว้น หมั่นสวดคาถา หมั่นใช้หมั่นเจิม กระทำ พูด คิด ให้สอดคล้องไปกับคำอธิษฐาน ร่ายคาถาปลุกฤทธิ์อิ่นบูชาสีผึ้งบ่อยๆ จิตมีฤทธิ์ความคิดจะมีอำนาจ ** คิดอะไร พูดอะไร จะได้อย่างนั้น จึงต้องคิดดีดี พูดดีดี ทำดีดี
คาถาบูชาสีผึ้งปลุกฤทธิ์ "อิ่น" คือ "คาถาสีผึ้งนางมัทรี" ท่องจำให้ได้ขึ้นใจห้ามอ่าน!! หมั่นสวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่นเช้า-ค่ำ กี่จบก็ได้สวดตามกำลังใจ มากจบยิ่งดี อิ่นคู่ใดเจ้าของหมั่นปลุกฤทธิ์ปลุกธาตุร่ายคาถา อิ่นคู่นั้นจะยิ่งศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์อิทธิคุณสูงยิ่งนักฯ. การหมั่นสวดคาถา คือการเชื่อมจิต เชื่อมบุญถึงครูบาอาจารย์ ขออำนาจบุญบารมีท่านมาเสริมกำลังบุญหนุนดวงชะตา ค้ำคูณเรา และเป็นการรวมจิตให้นิ่งมีกำลัง เพื่อทุกคำอธิษฐานจะสำเร็จ สัมฤทธิ์ผลเป็นจริงในเร็ววัน
"คาถาสีผึ้งนางมัทรี" สวดปลุกอิ่น ไม่ต้องว่า นะโมก่อน เพราะเนื้อคาถาเป็นเรื่องทางโลก ให้ว่าคาถาเลย เมื่อท่านบูชาอิ่น จงเข้าใจเคล็ดลับไสยเวทย์แห่งอิ่นด้วยว่า อิ่นคือความรัก สีผึ้งคือความเมตตา กรุณาปราณี อิ่นทำให้คนรักกัน เมื่ออยากได้ความรัก จงให้ความรักก่อน อิ่นดลบันดาลความมั่งคั่ง ลาภ ยศ เงินทอง ความสำเร็จ ท่านก็จงเป็นผู้หมั่นทำทาน รักษาศีลเป็นนิตย์ อิ่นมีฤทธิ์ทางมหาเสน่ห์เมตตา มหานิยม ท่านก็จงเป็นผู้มีจิตใจงามวาจาอ่อนหวาน พูดถ้อยคำมงคลอยู่เสมอ เพียงทำได้ดั่งนี้ "สีผึ้งนางมัทรีอิ่นทราวดี" ก็จะมีอำนาจดลบันดาลให้ท่านได้ดั่งแก้วสารพัดนึก
"อิ่นทราวดี" คือจิตใจอันเมตตากรุณามีไมตรีจิต จิตเมตตากรุณาทำสิ่งใดย่อมสำเร็จ เป็นมหานิยม อุดมโชคลาภ "อิ่น"แทนกำเนิดทุกสิ่ง สัตว์ ภูติ เทวดา มาร พรหมล้วนเคยเกิดในโลก คนใช้อิ่นในทางชั่ว ย่อมมัวหมองบาปกรรมย่อมตามสนอง " อิ่น " เป็นตัวช่วยในเรื่องโลกๆ ที่ยังต้องกินต้องใช้ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม ไม่ใช่เอาไปผิดศีล ทำร้ายทำลายกดข่มผู้อื่น ทุกศาสตร์ย่อมมีความหมาย ทุกความหมายย่อมพ้นความงมงายด้วยปัญญา คนดีจึงใช้ของดี ของดีย่อมทำลายใจอกุศล ผู้ทำกรรมเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น
อิ่นหรือรูปชายหญิงกอดกัน แสดงการกำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนาม แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้ให้ตื่นจากความหลงความโลภความโกรธ จิตจึงเป็นอิสระ จากเครื่องผูกมัดกายใจ ลด ละ อัตตา เชื่อมโยงจิตวิญญานความรัก ความศรัทธา ด้วยความรัก ความเมตตา ความศรัทธา และความเคารพซึ่งกันและกัน ให้จิตตื่นรื่นเริงยินดีในการให้ มีความรัก ความเมตตา การให้อภัย อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน อันเป็นสุดยอดแห่งเสน่ห์ เมตตามหานิยม ที่มีอำนาจมหาศาลในการดลบันดาลทุกๆ สิ่งให้สมใจปรารถนา
"สีผึ้งนางมัทรีอิ่นทราวดี" นี้มีฤทธิ์ทางใจ ออกฤทธิ์ทางวาจาการเจรจา ทำให้คนทั้งหลายเมตตารักใคร่ บังเกิดเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รัก จากไปก็อาลัยคิดถึง เจรจาสิ่งใดก็น่าเชื่อถือ เข้ามาอุดหนุนแล้วก็อยากเวียนมาอีก ทั้งหมดนี้เป็นไปด้วยแรงเมตตา โชคลาภหลั่งไหล หนุนดวงเสริมวาสนาบารมี ก่อนจะใช้ .. ให้ตั้งจิตแน่วแน่ สวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น .. แล้วอธิษฐานใช้ตามความปรารถนาใช้ได้ครบทุกๆ ด้าน เพียงแต่ว่าเจตนาของผู้ใช้ จะประสงค์สิ่งใด สำคัญ!! อยู่ที่จิต ขอให้จิตนิ่งแน่วแน่ ระลึกถึงครูบาอาจารย์ อยู่ในศีลธรรมคุณงามความดี ก็จะสำเร็จได้ดั่งอัศจรรย์ !!!
ผู้ใดมีสีผึ้งนางมัทรีอิ่นทราวดีไว้ติดตัว ย่อมมีอำนาจเหนือจิตใจของเพศตรงข้าม มีอำนาจในทางดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้เพศตรงข้ามคิดถึงตัวเราเสมอๆ เกิดความรักความต้องการที่จะใกล้ชิด สีผึ้งนางมัทรีอิ่นทราวดีเป็นเครื่องรางที่ดลบันดาลความรัก ความผูกพัน หากใครที่อยากมีความรักและอยากให้เขาก็รักเราเช่นกันก็ให้บูชาติดกายไว้หมั่นสวดปลุกฤทธิ์อิ่น ท่านว่าจะได้สมดั่งใจแลฯ
สีผึ้งนางมัทรีอิ่นทราวดี มหาเสน่หาพารวย พูดอะไรคนรัก พูดไปได้โชคได้ลาภ ติดตัวไปค้าขาย ขายดีขายได้ ทำสิ่งใดสำเร็จ ผู้บูชาสีผึ้งนางมัทรีต้องเป็นผู้ที่วาจาดี พูดแต่สิ่งดีดี พูดดี ดีเข้าตัว พูดชั่วเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์แยกแยะไม่ได้ว่าสิ่งใดเราต้องการ สิ่งใดเราพูดเพ้อเจ้อประชดประชัน ครูบาอาจารย์ท่านจึงสอนว่า..หมั่นสวดคาถา หมั่นอธิษฐานจิต ขอได้ทุกเรื่อง ขอให้จริง แล้วทำให้จริง ประพฤติตนให้สอดคล้องกับคำอธิษฐาน แล้วจะสำเร็จสมปรารถนาทุกปราการแลฯ
ประสบการณ์จากผู้บูชาจำนวนมาก เห็นผลกันแบบอัศจรรย์ทันตาทันใจบ้าง ไม่ทันใจทันตาบ้าง แต่หมั่นป้าย หมั่นทา หมั่นสวดคาถาบูชา สิ่งดีดีก็ไหลหลั่งเข้ามาแทบรับไม่ไหวกันหลายคนหลายท่าน การจะให้เห็นผลดียิ่งนั้น ครูบาอาจารย์แนะให้บูชาร่วมกับการจุดเทียนบูชา ไม่ว่าจะเป็นเทียนมหาเศรษฐีดวงดี เทียนจักรพรรดิ์ เทียนพระเพรชกลับ เทียนผัวแก้วเมียแก้ว เทียนเสน่ห์จันทร์ หรือดวงประทีปอธิษฐาน เพราะการใช้สีผึ้งนางมัทรีเป็นการบูชาเพื่อหวังผลทางโลก และคาถาก็เป็นคาถาที่เน้นสุขทางโลก หากได้บูชาเทียนเสริม บุญบารมี อำนาจ ตบะ เดชะ ก็ยิ่งทำให้จิตมีกำลัง เพิ่มฤทธิ์อำนาจดลบันดาลได้แบบฉับพลันทันใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น