"คู่ของเราเป็นคู่บุญหรือคู่กรรม" อ่านจบตาสว่าง❗️❗️❗️
หลักสังเกตคู่เวรง่ายๆ คือคุณจะเหมือนมีสองความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน อาจสลับๆหรือควบคู่กันไป เช่น เวลาอยู่ห่างจะคิดถึงกัน ถวิลหาอยากอยู่ใกล้คล้ายมีแรงดึงดูดเกินต้าน แต่พอมาอยู่ใกล้กันจริงๆกลับอึดอัดแปลกๆ มองหน้าไม่เต็มตา ไม่นึกอยากคุย หรือหนักกว่านั้นคือคุยกันมีแต่ทะเลาะ❗️❗️❗️
.......................
📍"คู่บุญ บุญเป็นธรรมชาติด้านสว่าง บันดาลให้เกิดผลด้านดี ฉะนั้นคู่ที่เคยร่วมบุญกันมามากในชีวิตก่อน ย่อมได้ร่างกายและจิตใจในชีวิตนี้ที่ดึงดูดกันและกัน พอใจกันและกัน กับทั้งเป็นสุขเมื่อมีกันและกัน
.......................
📍อำนาจของบุญมีพลังยิ่งกว่าพลังใดๆในจักรวาล อะไรอื่นเช่นพลังจากอาหารอาจสร้างเลือดสร้างเนื้อ ตลอดจนช่วยให้เราขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ แต่บุญนั้นถึงขั้นบันดาลรูปชีวิตดีๆได้ หรือขับเคลื่อนรูปชีวิตให้พัฒนาขึ้นได้ จนกว่าจะหมดกำลัง .......................
📍นั่นหมายความว่าบุญที่เคยทำมาร่วมกัน ย่อมบันดาลให้คู่บุญรู้สึกดีต่อกันตั้งแต่แรกคบ ตลอดจนบันดาลให้พบเจอแต่เรื่องดีๆร่วมกัน มีผลให้เป็นสุขและอยากอยู่ใกล้ชิด ไม่อยากจากไปไหน และไม่อยากมีอะไรอื่นมากกว่านั้น ชวนไปไหนไปกัน นึกครึ้มและคุ้นเคยกับบรรยากาศร่วมกันยิ่งกว่าเมื่ออยู่กับใครอื่นทั้งหมด
.......................
📍และเหนือสิ่งอื่นใด อำนาจของบุญเก่าจะบันดาลให้นึกอยากทำอะไรดีๆร่วมกันอีก ทั้งในแง่ของการช่วยคิด ช่วยพูด และช่วยแก้ปัญหาของอีกฝ่ายให้หมดไป ตลอดจนริเริ่มช่วยคนอื่น ช่วยสังคม ช่วยศาสนาร่วมกันด้วย
.......................
📍บุญที่ใหญ่ยิ่งย่อมก่อให้เกิดความรักที่ยิ่งใหญ่ ในทางพุทธแล้ว บุญอันยิ่งใหญ่ที่ประกันความผูกพันไร้ที่สิ้นสุด คือการมีโอกาสเกิดร่วมชาติกับพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันตสาวก แล้วมีจิตเลื่อมใส ถวายสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพแด่พวกท่าน กับทั้งอธิษฐานร่วมกัน สนับสนุนกันและกันให้ได้ไปถึงความสิ้นสุดกิเลส สิ้นสุดทุกข์ด้วยกันในอนาคตกาล
.......................
📍เหตุใดจึงตัดสินว่าเป็นบุญยิ่งใหญ่อันให้ผลผูกพันไร้ที่ สิ้นสุด? เพราะความผูกพันจะมาในรูปของปฏิกิริยาลูกโซ่ ไม่มีการขาดตอนบนเส้นทางสู่จุดหมายสุดท้าย
.......................
📍คู่ที่ทำบุญร่วมกันระดับนี้ ย่อมได้ชื่อว่ามีความเป็นที่สุดสำหรับกันและกัน เมื่อ พบกันในแต่ละชาติ จึงไม่เป็นที่สงสัยในความเป็นตัวจริงตั้งแต่ต้น กับทั้งไม่มีทางทอดทิ้งกันได้ลงไปจนตาย แม้ในชาติที่ไม่รู้เรื่องนิพพาน อย่างน้อยก็ต้องรู้สึกผูกพัน อยากช่วยให้อีกฝ่ายพ้นทุกข์พ้นภัยจนถึงที่สุด
.......................
📍ความดึงดูดที่เกิดขึ้นในช่วงแรกคบจะไม่ธรรมดา เหมือนมีความสดใสกระจ่าง เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ และบันดาลให้นึกออกทันทีว่าหน้าตาของรักแท้เป็นอย่างไร พบกันแล้วเกิดรัศมีบางชนิดคล้ายเกราะแก้วล้อมรอบ กั้นเขตให้รู้ว่านี่คือที่ที่สองคนเท่านั้น มีสิทธิ์ทราบว่าเป็นอย่างไร และถัดจากนั้นจะมีแต่เรื่องดีกับดีประดังเข้ามาช่วยให้แน่ใจ ว่าสมควรยินยอมเป็นสามีภรรยากันแต่โดยดี
.......................
📍ไม่กี่คู่หรอกที่ได้พบกับประสบการณ์ประมาณนั้น เพราะโอกาสพบพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เป็นเรื่องยากยิ่ง และแม้พบแล้วก็ไม่แน่ว่าจะมีบุญพอให้เกิดความเลื่อมใสพวกท่าน หรือถึงแม้มีบุญพอให้เกิดความเลื่อมใสพวกท่านก็ไม่แน่ว่าจะมีคู่รักดีๆไปทำบุญกับพวกท่านร่วมกันหรือเปล่า
.......................
📍บุญใหญ่ที่รองลงมา ได้แก่การเคยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันแบบคู่ผัวตัวเมีย มีรักเดียวใจเดียว ไม่แยกจากกันจนตาย เหตุการณ์ ทั้งหมดนับแต่ร่วมเตียง ร่วมโต๊ะกินข้าว ร่วมเสพความบันเทิง ตลอดจนร่วมเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน จะรวมกันถักทอเป็นสายใยผูกพันที่มองไม่เห็น
.......................
📍ที่ต้องบอกว่า ‘มองไม่เห็น’ เพราะคู่รักอาจไม่รู้สึกถึงสายใยผูกพันด้วยซ้ำในยามเฉยชิน เหมือนตื่นมาเจอหน้าและร่วมกิจวัตรประจำวันกันไปอย่างนั้นเอง ต่อเมื่อพบกันในอีกชีวิตหนึ่ง ทุกอย่างแปลกใหม่ไปหมดแล้ว สายใยอันเหนียวแน่นจึงปรากฏอย่างเด่นชัด ความรู้สึกว่าไม่อาจดิ้นหนีกันและกันพ้นนั่นแหละ การแสดงตัวของสายใยข้ามชาติ ทั้งสองฝ่ายจะยอมรับประมาณว่าใช่เลย เคยอยู่ด้วยกันมา
.......................
📍อย่างไรก็ตาม ‘คู่ที่ใช่ไปเรื่อยๆ’ ประเภทนี้อาจไม่ได้รู้สึกหวือหวาเท่า ‘คู่แท้ไปนิพพาน’ คือแค่ตะลึงๆหน่อย ไม่ได้มีรัศมีบุญเก่ามากั้นเขตหยุดโลก แล้วเหตุการณ์ระหว่างกันในช่วงแรกคบก็เรื่อยๆมาเรียงๆ ชุ่มชื่นใจบ้าง สบายใจบ้าง แห้งเหี่ยวบ้าง น่าหงุดหงิดบ้าง แสดงผลของกรรมขาวกรรมดำที่เคยทำร่วมกันมาแบบลุ่มๆดอนๆ ไม่ถึงกับอะไรๆก็ดีไปหมด สนับสนุนให้อยู่ร่วมกันไปหมด
.......................
📍ถ้าเคยปรองดองกันมาก เจอกันใหม่ก็เหมือนเข้ากันได้ง่าย คุยกันได้ทุกเรื่อง สนิทสนมเป็นกันเอง ไม่เป็นอื่นต่อกันเลย พูดไปในทางเดียวกันหมด แต่ถ้าเคยทะเลาะเบาะแว้งบ่อย เจอกันใหม่ก็จะออกแนวขิงก็ราข่าก็แรง จิกกัดทิ่มตำกันแบบพ่อแง่แม่งอน แต่ก็รู้สึกหวานและแสนคิดถึง โดยเฉพาะตอนกลางคืนก่อนหลับไปเดี่ยวๆ
.......................
📍บุญที่รองลงไปกว่านั้น ได้แก่การเคยเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่รักกัน เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ตอบแทนกัน ไม่หวังผลประโยชน์จากกัน ในชาติใหม่สายสัมพันธ์ฉันญาตินั้นจะเตือนให้รู้สึกผูกพันและไว้ใจกัน เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน จะขอความช่วยเหลือหรือไหว้วานอะไรก็เกรงใจน้อยกว่าคนอื่น
.......................
📍ความรู้สึกลึกๆจะเป็นไปตามศักดิ์ที่เคยนับญาติ หรือคุ้นศักดิ์คุ้นนิสัยกันมา เช่น ถ้าเคยเป็นพี่เป็นน้อง ก็จะรู้สึกเหมือนพี่เหมือนน้อง หัวเราะเล่นหัวได้โดยที่ฝ่ายน้องไม่ถือสา กับทั้งมีความนับถือยำเกรงฝ่ายพี่อยู่ในที ขณะที่ฝ่ายพี่ก็ให้ความเอ็นดู เป็นห่วงและอยากดูแลโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
.......................
📍แรกเริ่มที่คบหาจะมีความเอ็นดูนำมาก่อน จากนั้นเมื่อใกล้ชิดกันมากขึ้น ก็ค่อยๆแปรเป็นความรู้สึกทางเพศ อันเป็นไปตามความดึงดูดของกายที่กำเนิดมาจากคนละพ่อคนละแม่ แต่กรณีทำนองนี้ก็ไม่แน่นอน ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปักใจกับความรู้สึกแบบญาติ ก็อาจไม่อยากเล่นด้วย หรือกระทั่งพลอยเกลียดอีกฝ่ายไปเลยที่มามีความรู้สึกเชิงชู้สาวกับตน
.......................
📍สรุปแล้วความดึงดูดกันด้วยอำนาจบุญ ไม่จำเป็นต้องหมายถึงเคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อนเสมอไป แม้ความรู้สึกแรกจะอยากเข้าหากันเป็นพิเศษ ก็ต้องดูด้วยว่าพื้นฐานความรู้สึกที่มีต่อกันเป็นแบบไหน ถ้าขยับความสัมพันธ์ไปในเชิงชู้สาวแล้วจะมีฝ่ายใดเดือดร้อนไหม บางคู่มีอันต้องเลิกคบกันดื้อๆ เพียงเพราะฝ่ายหนึ่งเปิดเผยความในใจแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ก็นับว่าน่าเสียดายมิตรภาพไม่น้อย"
.......................
📍"คู่กรรม บาปเป็นธรรมชาติด้านมืด บันดาลให้เกิดผลด้านร้าย ฉะนั้นคู่ที่เคยร่วมกันทำบาปหรือผูกเวรกันมามากในชีวิตก่อน ย่อมได้ร่างกายและจิตใจในชีวิตนี้ที่ผลักดันกันออกห่าง ไม่พอใจกันและกัน กับทั้งเป็นทุกข์เมื่อต้องอยู่ใกล้กัน
📍แต่การจองเวรนั้นพิสดารนัก ถ้ารูปแบบของการจอง เวรกันเป็นไปในแบบผัวเมีย ชาติปัจจุบันจะเริ่มความสัมพันธ์ด้วยแรงดึงดูดทางเพศเกินห้ามใจก่อน แล้วจึงตามมาด้วยแรงผลักทางอารมณ์ที่น่ารุ่มร้อนในภายหลัง
.......................
📍มันเป็นวงจรเวรต่อเวรไม่รู้จบรู้สิ้น เคยดี เคยร้าย ลงท้ายไม่ปรองดองกันอย่างถาวร แล้วจบลงด้วยความวิปโยคหรือโศกนาฏกรรมถึงเลือดถึงเนื้อ ผ่านภพผ่านชาตินึกว่าจะจบ กลับต้องมาเจอกันใหม่ คบกันใหม่เพราะจำกันไม่ได้ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าเข้าทางวงจรอุบาทว์อีกแล้ว
.......................
📍เวลาฝ่ายหญิงเม้าท์ให้เพื่อนฟังก็มักบ่นว่าไม่รู้เป็น อะไร กับคนนี้ขนลุกแบบกล้าๆกลัวๆอย่างประหลาด ว่าจะไม่ๆ แต่ก็เหมือนเจอหลุมดำลึกลับที่สู้ไม่ไหว คล้ายเจอเสน่ห์ยาแฝดลากให้ถลาเข้าไปหาทุกที
.......................
📍หรือบางกรณี กลกรรมบวกกลกามก็แนบเนียนกว่านั้น ไม่มีสังหรณ์ร้ายใดๆให้เฉลียวใจทั้งสิ้น หลงนึกว่ารักแท้คือแรงดึงดูด ภายหลังถึงค่อยรู้ว่าดึงดูดให้มาตบกัน!
.......................
📍หลักสังเกตคู่เวรง่ายๆ คือคุณจะเหมือนมีสองความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน อาจสลับๆหรือควบคู่กันไป เช่น เวลาอยู่ห่างจะคิดถึงกัน ถวิลหาอยากอยู่ใกล้คล้ายมีแรงดึงดูดเกินต้าน แต่พอมาอยู่ใกล้กันจริงๆกลับอึดอัดแปลกๆ มองหน้าไม่เต็มตา ไม่นึกอยากคุย หรือหนักกว่านั้นคือคุยกันมีแต่ทะเลาะ
.......................
📍อีกหลักสังเกตหนึ่งคือพวกคุณจะคิดบุญร่วมกันยาก คิดเมื่อไรเป็นต้องเจอเหตุหน่วงเหนี่ยวหรืออุปสรรคขัดขวางอย่างใดอย่างหนึ่ง เสมอ เรียกว่าเวรที่มีร่วมกันจะไม่ยอมให้รู้สึกดีต่อกันง่ายๆ จะแกล้งให้อยู่บนเส้นทางบาปเวรเรื่อยไปนั่นแหละ
.......................
📍เวลากรรมเก่าจะให้ผลแบบมืดๆนะครับ มันมาได้ทุกท่าเลย ต่อให้ไม่มีสถานการณ์เลวร้ายใดๆ แค่เรื่องขี้ปะติ๋วอย่างเช่นมาสายไปหน่อยเดียว ก็ทำเอาของขึ้นได้ คือพายุความโกรธที่กระโชกขึ้นมาจะไม่สมเหตุสมผล เหมือนแค้นอะไรนักหนา แรกๆแค่อาละวาดเกรี้ยวกราดแบบพอทำใจอภัย แต่หลายครั้งเข้าพอถึงขีดสุดความอดทน ก็จะวกกลับไปหาวงจรอุบาทว์ในชาติก่อนเต็มรูปแบบ คือลงมือลงไม้ ทุบ ถอง ตีเข่าเขย่าศอก หรือถึงขั้นตายเป็นตาย หยิบอาวุธขึ้นมาประหัตประหารกัน
.......................
📍สิ่งที่น่ากลัวจริงๆในการต้องมาอยู่ร่วมกับคู่เวรนั้น ไม่ได้อยู่ที่การทะเลาะเบาะแว้งหรือกระทั่งการฆ่าแกงกัน แต่เป็นรูปชีวิตใหม่ที่ถูกบันดาลขึ้นด้วยบาป หลังตายจากโลกนี้ไปแล้ว
.......................
📍หลักการดูคติอันเป็นที่เกิดใหม่นั้น ผู้รู้จักธรรมชาติดีที่สุดเช่นพระพุทธเจ้าตรัสไว้ให้ฟังง่าย คือถ้าสั่งสมการคิดร้าย พูดร้าย ทำร้าย อันเป็นเหตุให้จิตเศร้าหมองก่อนตาย อบายย่อมเป็นที่หวังได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ลองตรองดูเถิดว่าถ้าชีวิตคู่ของคุณคือความอึดอัดคัดแน่น ชวนให้คิดร้าย พูดร้าย และทำร้าย อะไรจะเกิดขึ้น?
.......................
📍ความจริงก็คือ ถ้าคุณดับไฟในครัวเรือนไม่ได้ทันก่อนตาย ก็จะต้องเจอไฟในอบายกันต่อไป
.......................
📍มีคนตายไปอบายให้ดูทุกวัน เสียดายคนดูไม่มีความสามารถจะเห็น เพราะเห็นได้ก็แค่ศพที่ไร้ลมเข้าลมออก อย่างอื่นที่นอกเหนือจากนั้นถูกปิดกั้นไว้ มิฉะนั้นพวกเราทุกคนคงตั้งหน้าตั้งตาสอบให้ผ่านด่านชีวิตคู่กันทั้งหมด
.......................
📍กันไว้ดีกว่าแก้ ดูให้ดีว่าระหว่างคุณกับคนที่อยู่ตรงหน้าคุณ เป็นพวกที่จับคู่กันเพื่อกุศลหรืออกุศล อย่าปล่อยให้สายเกินไป เพราะไม่มีใครกลับไปแก้ไขอดีตได้
.......................
📍ท่องไว้ว่าวิธีดับไฟที่ง่ายที่สุด คือดับมันเสียก่อนจะเริ่มไหม้
.......................
📍สรุปแล้วความดึงดูดกันในเบื้องต้นไม่ได้เป็นประกันว่าคุณกับเขาเป็นคู่บุญ โดยที่แท้อาจเป็นคู่เวรก็ได้ ฉะนั้น ถ้ารู้ตัวว่าเจอคู่เวร และไม่อาจหนีพลังดึงดูดอันมหาศาลของหลุมดำได้ ก็ให้เลือกว่าเจอครั้งนี้เพื่อยุติศึก อย่าได้เจอกันเพื่อต่อเวรอีกเลย"
.......................
📍สรุปสั้นๆ คือเจอคู่เวร ก็อโหสิกรรม อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย
จากหนังสือ "รักแท้มีจริง"
- ดังตฤณ -
ด้วยเหตุนี้ เจ้านายชนชั้นสูงในสมัยล้านนาโบราณ จึงให้คุณค่าและความสำคัญ กับเรื่องมหาเสน่ห์เมตตาเป็นอย่างยิ่ง ครูบาอาจารย์ด้านไสยเวทย์ จะปรุงน้ำมัน สีผึ้ง ว่านยามหาเสน่ห์ สร้างเครื่องรางคง เข้ม ข่าม ขลัง ด้านมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม ไว้ให้ลูกหลาน ลูกศิษย์ ไว้บูชา เพื่อค้ำคูณพลังจิตกำลังใจหนุนดวงเสริมชะตา ให้ชีวิตดี ไร้อุปสรรค มีความสุข ทำสิ่งใดก็สำเร็จโดยง่าย เสริมราศีอำนาจวาสนา ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องครอบครัว ความรัก หน้าที่การงาน และความมั่งคั่งทางการเงิน
ท่านว่า..ใครบูชาอิ่นถูกใช้อิ่นเป็น ผู้นั้นจะมีมหาอำนาจ มหาเสน่ห์เมตตามหานิยมในตนเองอย่างประมาณมิได้เลย ความรัก ความสุข เงินทอง ทรัพย์สิน ลาภยศ จะหลั่งไหลเข้ามามิขาด คิดสิ่งใด ปรารถนาสิ่งใด แม้ว่ายากเกินกำลัง สิ่งนั้นก็จะสำเร็จทุกประการแล !!!
"อิ่นเมตตาหลวง" เนื้อดินทราวดีโบราณ และดินอาถรรพ์จาก10สถานที่สวยงามคนนิยม ดิน10 ร้านอาหารขายดีมากคนนิยม มีมวลสารว่านมงคล ว่านยามหาเสน่ห์เมตตาครบสูตร แก้วโป่งข่ามรัตนชาติศักดิ์สิทธิ์บด 12 ชนิด กาฝาก9ชนิด กาฝากกาหลง-รักซ้อน-มะยม-มะรุม-มะขาม -ขนุน--ยอ-คูณ-พยูง (อานุภาพกาฝาก คือ ได้อะไรมาง่ายๆป้อนถึงปาก ชีวิตไม่ลำบาก มีมหาเสน่ห์ดึงดูดจิตผูกมัดใจผู้คน มีเมตตา มหานิยม มหาอำนาจ มั่งมีโชคลาภ ค้าขายดี แคล้วคลาด กันภัย*) และมวลสารอาถรรพ์ทนสิทธิ์อันเป็นความลับจากปั๊บสาตำราไสยเวทย์ล้านนาโบราณ
"อิ่นเมตตาหลวง" ปลุกเสก ปั้น เผา ร่ายเวทย์เรียกสูตรครบธาตุ "ดิน น้ำ ลม ไฟ " ปลุกคาถาแช่น้ำมันจันทร์หอมและว่านยามหาเสน่ห์ 108 อาบแสงจันทร์ 22 คืนเพ็ญ ร่ายมนต์เรียกสูตรปลุกอักขระด้วยวิชาเร้นลับจนเกิดวิญญานธาตุภายใน มีฤทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม มหาอำนาจ ดลบันดาลได้พันช่องพันเรื่อง ตามแต่อธิษฐาน
หมั่นสวดบูชาคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น ค่ำเช้า ตั้งใจสวดกี่จบก็สวดตามนั้น (ยิ่งมากยิ่งดี)
แต่จบสุดท้ายให้สวดแบบ"ปิดทวาร" แล้วจึงตั้งจิตตั้งใจอธิษฐาน
ปรารถนาสิ่งใดอย่างแรงกล้าให้เขียนกำกับไว้ แล้วใส่ไว้ในตัวอิ่น โดย..เขียนชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิดเจ้าของอิ่น และคำอธิษฐาน ใส่กระดาษเล็กๆ ม้วนบรรจุไว้ภายในตัวอิ่น ให้ขอทีละเรื่องทำทีละอย่าง ทุกครั้งที่สวดคาถา ให้สวดด้วยจิตอันประภัสสร สุข สว่าง สะอาด สงบ คิดถึงแต่ภาพที่ต้องการมี ต้องการได้ ต้องการเป็น พูดในถ้อยคำอันไพเราะอ่อนหวาน เป็นมงคล ไม่ด่าไม่สาปแช่งใคร
พกอิ่นติดตัวไว้เป็นสุดยอดเสน่ห์เมตตา คู่รักคู่สามีภรรยาให้สอดไว้ใต้เตียงนอนทุกค่ำคืนหลังสวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น จะรักใคร่เมตตาถวิลหากันมิเสื่อมมิคลายเลย ยามเข้าตาจนหน้าสิ่วหน้าขวานหาทองออกไม่ได้ นำอิ่นออกมาสวดคาถาแบบปิดทวารแล้วอธิษฐาน ด้วยจิตนิ่งแน่วแน่เชื่อมั่นศรัทธา ปาฎิหาริย์จะบังเกิด!!!
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
คุณต้องจำไว้ว่า
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตัดกระดาษขนาดประมาณ 1.50 เซนติเมตร x 3 เซนติเมตร
เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สองคู่รัก หากไม่ทราบวันเดือนปีเกิดเขาก็ให้เขียนแค่ ชื่อ นามสกุล เท่าที่รู้ และคำอธิษฐาน แล้วม้วนกระดาษใส่เข้าไปภายในตัวอิ่น
***ณ ขณะที่ตัดกระดาษ ลงมือเขียนอักษร จิตใจต้องสงบนิ่ง จิตต้องประภัสสร สุข สว่าง สงบ สดใส มีความเบิกบาน มีความสุขในแบบที่เราต้องการมี ต้องการเป็นต้องการได้ ระลึกให้เห็นภาพเรากับคนที่เรารักอย่างมีความสุขใจ เบิกบาน มีความรักความเมตตาความปรารถนาดี ส่งไปถึงเขา ส่งความรักความเมตตาไปกระทบจิตเขา นึกให้เห็นภาพเขา หากยังมีความกังวล หม่นหมอง เศร้าใจ อย่าเพิ่งเขียนเด็ดขาด รอให้จิตสงบๆก่อนค่อยเริ่ม จงจำไว้ว่า อิ่นจะดลบันดาลในสิ่งที่คุณ ทำ พูด คิด อธิษฐาน และแสดงออก.. อิ่นจะแยกแยะไม่ได้ ว่าอันไหนคุณบ่น คุณประชด และอันไหนคือคุณอยากได้จริงๆ
❌❌หากขอเรื่องอื่นๆ เช่นขอเงิน ของาน ก็คิดให้เห็นภาพว่าเรามีเงินจำนวนมากๆ ได้งานที่รักพอใจแล้วจริงๆ
❌❌หากขอเรื่องค้าขาย ก็ให้นึกภาพที่เราต้องการให้เกิดขึ้น คนหลั่งไหลมาซื้อของเรามากมาย เงินทองกองล้น สินค้าขายดีมาก
❌❌หากขอให้หมดหนี้สิน ก็ให้นึกภาพเรามีเงินทองมากมาย งานดี เงินดี ค้าขายดี ชีวิตดีมีความสุข
❌❌หากขอให้ผู้ใหญ่เมตตา คู่ค้าคู่ความเอ็นดูเมตตาให้ประโยชน์โชคลาภ ก็ให้นึกถึงหน้าเขาด้วยจิตใจที่ดีงาม มีความรัก ความกรุณาปราณีเมตตาต่อเขา
💥 สวดแบบปิดทวารก่อนอธิษฐานทุกครั้ง❗️❗️
❌❌อย่าลืมว่า "ต้องกระทำ" ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราอธิษฐานด้วย ทั้งการกระทำ คำพูด ความคิด ไม่ใช่อธิษฐานให้ขายดีแล้วนอนเกาพุงฝันหวานรอ ต้องทำงาน มีมานะ วิริยะ อุตสาหะ ต้องคิดพัฒนาร้าน คิดพัฒนาสินค้า เตรียมพร้อมรับลูกค้ามากมาย และเงินก้อนใหญ่ เพื่อให้ปาฎิหาริย์เกิดและคำอธิษฐานเป็นจริง
การเขียนคำอธิษฐาน ถ้าไม่ใช่เรื่องความรัก ก็เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของเจ้าของอิ่น และคำอธิษฐาน 1 เรื่องที่สำคัญยิ่ง ต้องการด่วน ลงไป
"คาถาสีผึ้งนางมัทรี" สวดปลุกอิ่น ไม่ต้องว่า นะโมก่อน เพราะเนื้อคาถาเป็นเรื่องทางโลก ให้ว่าคาถาเลย เมื่อท่านบูชาอิ่น จงเข้าใจเคล็ดลับไสยเวทย์แห่งอิ่นด้วยว่า อิ่นคือความรัก ความเมตตา กรุณาปราณี อิ่นทำให้คนรักกัน เมื่ออยากได้ความรัก จงให้ความรักก่อน อิ่นดลบันดาลความมั่งคั่ง ลาภ ยศ เงินทอง ความสำเร็จ ท่านก็จงเป็นผู้หมั่นทำทาน รักษาศีลเป็นนิตย์ อิ่นมีฤทธิ์ทางมหาเสน่ห์เมตตา มหานิยม ท่านก็จงเป็นผู้มีจิตใจงามวาจาอ่อนหวาน พูดถ้อยคำมงคลอยู่เสมอ เพียงทำได้ดั่งนี้ "อิ่นเมตตาหลวง" ก็จะมีอำนาจดลบันดาลได้ดั่งแก้วสารพัดนึก
"อิ่นเมตตาหลวง" คือจิตใจอันเมตตากรุณามีไมตรีจิต จิตเมตตากรุณาทำสิ่งใดย่อมสำเร็จ เป็นมหานิยม อุดมโชคลาภ "อิ่น"แทนกำเนิดทุกสิ่ง สัตว์ ภูติ เทวดา มาร พรหมล้วนเคยเกิดในโลก คนใช้อิ่นในทางชั่ว ย่อมมัวหมองบาปกรรมย่อมตามสนอง บาปกรรมจองเวรตามไปทุกชาติภพ " อิ่น " เป็นตัวช่วยในเรื่องโลกๆ ที่ยังต้องกินต้องใช้ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม ไม่ใช่เอาไปผิดศีล ทำร้ายทำลายกดข่มผู้อื่น ทุกศาสตร์ย่อมมีความหมาย ทุกความหมายย่อมพ้นความงมงายด้วยปัญญา คนดีจึงใช้ของดี ของดีย่อมทำลายใจอกุศล คำสาปวิชาจึงมีไว้ ผู้ทำกรรมเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น
อิ่นหรือรูปชายหญิงกอดกัน แสดงการกำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนาม แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า #ภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้ให้ตื่นจากความหลงความโลภความโกรธ จิตจึงเป็นอิสระ จากเครื่องผูกมัดกายใจ ลด ละ อัตตา เชื่อมโยงจิตวิญญานความรัก ความศรัทธา ด้วยความรัก ความเมตตา ความศรัทธา และความเคารพซึ่งกันและกัน ให้จิตตื่นรื่นเริงยินดีในการให้ มีความรัก ความเมตตา การให้อภัย อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน อันเป็นสุดยอดแห่งเสน่ห์ เมตตามหานิยม ที่มีอำนาจมหาศาลในการดลบันดาลทุกๆ สิ่งให้สมใจปรารถนา
อิ่นมหาเสน่ห์อันดับหนึ่งเบญจภาคีเครื่องรางล้านนานี้ เล่าขานกันว่า..อิ่นเป็นเครื่องรางชั้นสูง บ้านใดมีอิ่นไว้ในบ้านๆนั้นก็จะมีแต่ความรักไม่มีเรื่องให้ทะเลาะหรือผิดใจกัน เป็นเครื่องรางที่ควรมีติดกาย ติดบ้านเรือน ติดห้องนอนห้องหอ ชนชั้นสูง เจ้าขุนมูลนาย จะหวงแหนกันมาก จะมอบอิ่นอันศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่ไว้ให้ลูกหลานในวันแต่งงาน และเป็นของขวัญสูงค่าที่คนรักจะมอบให้แก่กันและกัน
อิ่นเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก แรงมากในด้านมหานิยมมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เป็นที่หนึ่งด้านมหาเสน่ห์ มหานิยม ช่วยในเรื่องการเจรจาค้าขาย เข้าหาเจ้านาย เป็นที่รักของคนและเทวดา รวมไปถึง แคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจดลบันดาลพันช่องพันประการ กันภูตผีปีศาจ แม้แต่เทวดาอยู่บนชั้นฟ้า ยังต้องลงมาปกปักรักษาดูแลผู้ที่มีอิ่นไว้ครอบครอง
อิ่นเมตตาหลวงนี้ มีฤทธิ์ทางใจ ออกฤทธิ์ทางวาจาการเจรจา ทำให้คนทั้งหลายเมตตารักใคร่ บังเกิดเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รัก จากไปก็อาลัยคิดถึง เจรจาสิ่งใดก็น่าเชื่อถือ เข้ามาอุดหนุนแล้วก็อยากเวียนมาอีก ทั้งหมดนี้เป็นไปด้วยแรงเมตตา โชคลาภหลั่งไหล หนุนดวงเสริมวาสนาบารมี ก่อนจะใช้ .. ให้ตั้งจิตแน่วแน่ สวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น .. แล้วอธิษฐานใช้ตามความปรารถนาใช้ได้ครบทุกๆ ด้าน เพียงแต่ว่าเจตนาของผู้ใช้ จะประสงค์สิ่งใด สำคัญ!! อยู่ที่จิต ขอให้จิตนิ่งแน่วแน่ ระลึกถึงครูบาอาจารย์ อยู่ในศีลธรรมคุณงามความดี ก็จะสำเร็จได้ดั่งอัศจรรย์ !!!
ผู้ใดมีอิ่นไว้ติดตัวย่อมมีอำนาจเหนือจิตใจของเพศตรงข้าม มีอำนาจในทางดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้เพศตรงข้ามคิดถึงตัวเราเสมอๆ เกิดความรักความต้องการที่จะใกล้ชิด อิ่นเมตตาหลวงเป็นเครื่องรางที่ดลบันดาลความรัก ความผูกพัน หากใครที่อยากมีความรักและอยากให้เขาก็รักเราเช่นกันก็ให้บูชาติดกายไว้หมั่นสวดปลุกฤทธิ์อิ่น ท่านว่าจะได้สมดั่งใจแลฯ
คนที่มีคู่อยู่แล้ว คู่เหินห่างไม่ค่อยใยดี ท่านว่าให้นำอิ่นเมตตาหลวง พกติดตัวทำการอธิษฐานต่ออิ่น ไม่ช้าไม่นานคู่รักจะคืนดีด้วยอย่างน่าอัศจรรย์ คู่สามีภรรยาที่แตกแยกกัน สามีนอกใจภรรยา ภรรยานอกใจสามี จะกลับมารักใคร่กลมเกลียวกัน ส่วนคู่ที่รักกันอยู่แล้วก็จะรักยิ่งๆ ขึ้นไป ผูกจิตให้รักผูกใจให้คิดถึงคะนึงหามิรู้ลืม มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น ให้บังเกิดความเมตตารักใคร่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น