วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

วิชาไสยศาสตร์ สายขาว คือ วิชาพุทธคุณ เรียนแล้วนำไปใช้ในการช่วยคน



“ไสยศาสตร์นั้นเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังมีคนมากมายในโลกที่ยังสงสัยว่า " ไสยศาสตร์"นั้นคืออะไร กำเนิดมาจากไหน เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ยังคาใจของท่านทั้งหลายที่ต่างก็อยากรู้ในวิชาแขนงนี้ ฉะนั้นเมื่ออยากรู้จึงต้องเสาะหาผู้ที่รู้จริง ซึ่งนั่นก็คือผู้ที่เรียนมาทางด้านนี้โดยตรง ซึ่งมีมากมายหลายแขนงให้ศึกษาเกี่ยวกับความลี้ลับของวิชาไสยศาสตร์ และผู้ที่จะเรียนรู้อย่างจริงจังนั้นจะต้องเป็นผู้มีความชอบ หรือความรักทางด้านนี้โดยเฉพาะเท่านั้นจึง
จะเรียนได้และสามารถนำมาใช้ได้จริง จึงต้องมีความพยายามเป็นอย่างมากในการฝึกฝน ”

เรื่องของวิชาไสยศาสตร์นั้น มี 2 ประเภท คือ



สายดำ คือ เดรัจฉาวิชา เรียนแล้วนำไปใช้ในทางที่ผิดๆ คือ นำมาทำร้ายคนอื่นๆด้วยวิชาที่ตนมี เช่น เสกหนังควายเข้าท้อง , ทำเสน่ห์ยาแฝด , ทำให้ผัวเมียเลิกกันโดยอาศัยเดรัจฉาวิชาคนพวกนี้เมื่อตายไปแล้วน่าสงสารอย่างยิ่ง เพราะต้องตกนรกอเวจี และต้องใช้กรรมเป็นอย่างมาก



สายขาว คือ วิชาพุทธคุณ เรียนแล้วนำไปใช้ในการช่วยคน โดยยึดธรรมปฎิบัติ วิชาพุทธคุณนี้มีเสื่อมมีดับหากเราทำผิดกฎข้อห้าม และยังช่วยผู้ที่ตกทุกข์ ร้อนใจต่างๆให้พ้นจากทุกข์ โดยใช้วิชาพุทธคุณในการช่วยเหลือ โดยใช้วัตถุมงคล และ คาถาต่างๆ มาใช้ให้เกิดความขลังในด้านต่างๆ เช่น ทำให้เกิดเป็นเมตตามหาเสน่ห์, มหานิยม, มหาอำนาจ, โภคทรัพย์

โดยการนำมาสัก เสก พรม เจิม , นำมาเขียน, นำมาเป่า, นำมาเสกลงสู่ร่างกายโดยต้องยึดถือกฎข้อห้ามต่างๆ โดยกฎต่างๆจะยึดคุณสมบัติของผู้ที่จะเรียนไสยศาสตร์ได้สำเร็จ คือ

1. เป็นผู้ที่มีความสนใจอย่างจริงจัง
2. ต้องมีความอดทนอย่างยิ่งยวด
3. ต้องเป็นผู้ที่เคารพครูบาอาจารย์อย่างที่สุด
4. ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนได้เรียนและได้ใช้อย่างไม่แคลงใจ

ผู้ที่สนใจอยากศึกษาไสยศาสตร์ท่านต้องมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งที่มองไม่เห็น โดยต้องยึดหลักความจริงของพระพุทธศาสนามาเป็นหลัก และต้องเชื่อเรื่องของกรรมดี - กรรมชั่วที่พระพุทธเจ้าท่านได้สอนไว้ เพราะมันมีความเกี่ยวเนื่องกับวิชาไสยศาสตร์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ผีสาง , เทวดา , เทพ ,พรหมต่างๆล้วนมีอยู่จริงในหลักธรรมคำสอนขององค์พระพุทธเจ้าทั้งสิ้น และท่านที่จะเรียนวิชาไสยศาสตร์ได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกจิต-สมาธิมาเป็นอย่างดี จนสามารถนำพลังงานที่มีอยู่ในตัวและในโลกมาใช้ได้ในรูปแบบต่างๆ เช่นดังพระเกจิอาจารย์ท่านต่างๆ ที่สามารถนำพลังงานต่างๆมาประจุลงเครื่องรางและของขลังต่างๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันอันตราย ที่จะมีแก่บรรดาลูกศิษย์ของท่าน และท่านทั้งหลายยังจะสามารถนำพลังงานที่เกิดจากการปฏิบัติสมาธิมาสำแดงอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ต่างๆ 

เช่นดังที่มีอยู่ในตำนานเรื่องเล่าของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่ท่านสามารถเสกหัวปลีเป็นกระต่าย และเสกคนเป็นจระเข้ได้อย่างน่าแปลกใจ ท่านที่ต้องการศึกษาไสยศาสตร์ท่านต้องเป็นผู้ใฝ่รู้ในคาถาอาคมต่างๆและต้องเป็นผู้ใฝ่หาครูบาอาจารย์ที่จะมาให้คำแนะนำอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับตนเองเพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายแก่ตนเอง หรือที่เรียกว่า “ ของเข้าตัว ”

หลักวิชาไสยศาสตร์ทั้ง 4 สาย
ท่านผู้สนใจในวิชาไสยศาสตร์พึงจะต้องรู้จักหลักวิชาไสยศาสตร์ทั้ง 4 สาย มีดังนี้
1. มฤคเวท เป็นการสวดเพื่อสรรเสริญพระเจ้า
2. ยชุรเวท เป็นการสวดอ้อนวอนพระเจ้า
3. สามเวท ใช้สำหรับสวดมนต์ทำพิธีถวายน้ำโสม
4. อถรรพเวท เป็นเวทมนตร์คาถาเรียกผีสางเทวดา ให้มาช่วยป้องกันอันตราย และมีการแก้อาถรรพณ์ต่างๆในวิชาอาถรรพณ์



อาถรรพเวทเป็นคัมภีร์ที่มีความสำคัญยิ่งและเป็นคัมภีร์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก คัมภีร์อถรรพเวทแบ่งออกเป็น 8 สายย่อยอีกด้วย มีดังนี้

4.1 วิชาแก้โรคต่างๆ อาคมประเภทนี้ใช้เป่ารักษาโรคต่างๆให้หายได้

4.2 วิชามหาประสาน อาคมประเภทนี้ใช้เป่าบาดแผลให้ประสานเป็นเนื้อเดียวกัน และยังสามารถใช้ประสานกระดูกได้อีกด้วย ในปัจจุบันยังมีคนนำวิชานี้มาใช้อยู่

4.3 วิชาสะเดาะ อาคมประเภทนี้ ใช้เป่าสิ่งของให้หลุดออกจากกัน เช่น สะเดาะกุญแจ, โซ่ตรวน, สะเดาะลูกในครรภ์ของมารดา แม้แต่ก้างติดคอก็ยังใช้อาคมบทนี้

4.4 วิชาป้องกันตัว อาคมประเภทนี้ ใช้เป่าปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้าคงทนต่ออาวุธทั้งปวง และให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

4.5 วิชาแสดงปาฏิหาริย์ อาคมประเภทนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถสำแดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆได้ เช่น ล่องหน, กำบังกาย, หายตัวดำดิน เดินบนน้ำและอากาศ, ย่นระยะทาง, ลุยไฟ, แปลงกาย ผู้ที่มีวิชานี้สามารถทำได้หลายอย่าง

4.6 วิชาคุณไสยทำอันตรายผู้อื่น อาคมประเภทนี้ใช้ทำร้ายผู้อื่นให้เจ็บ และตายได้ แล้วแต่ความต้องการของผู้กระทำหรือผู้จ้างวาน เช่น เสกหนังควายเข้าท้อง, เสกมีด เข้าท้อง, เสกตะปูเข้าท้อง, เสกกระดูกผีเข้าท้อง เป็นต้น

4.7 วิชาแก้คุณไสยและแก้ภูตผีปีศาจ อาคมประเภทนี้ใช้เป่าและแก้การถูกกระทำด้วยไสยศาสตร์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสกตะปู, มีด และกระดูกผี วิชานี้
สามารถใช้แก้และรักษาได้

4.8 วิชาการทำเสน่ห์ อาคมประเภทนี้ใช้เสกเป่าสิ่งของและของกิน รวมทั้งคนให้มาหลงไหล มารัก มาหลงตนเอง เรียกวิชานี้ว่า “วิชาเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม ” วิชาเหล่านี้มีความสำคัญต่างกันและผู้ที่จะเรียนวิชาไสยศาสตร์นั้นก็สามารถเลือกที่จะเรียนได้ตามที่ตนสนใจ แต่ควรรู้จักให้ครบทั้ง 8 สายวิชา เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกัน


ไสยศาสตร์ที่มีบทบาทในประเทศไทยในอดีตเมื่อครั้งสมัยสุโขทัย ไสยศาสตร์เข้ามามีบทบาทมากที่สุด เพราะยุคนั้นพระมหากษัตริย์และขุนนางต้องออกรบพร้อมกับทหาร รวมถึงการปกครองการบ้านการเรือนทั้งหมดต้องใช้ไสยศาสตร์ทั้งสิ้น เพราะไสยศาสตร์แยกเป็นหลายแขนง เช่น วิชาคงกระพันชาตรี, วิชาแคล้วคลาด, วิชาเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม, วิชาเสน่ห์เล่ห์ , กลวิชาแต่งคน , วิชากำบัง และอื่นๆอีกมากมายวิชาคงกระพันชาตรี เขาใช้เมื่อเวลาจะออกรบ ผู้เป็นเจ้านายหรือผู้มีวิชาอาคมก็จะแจกเครื่องรางของขลังต่างๆ ทั้งตะกรุดผ้ายันต์และวัตถุมงคลต่างๆ บ้างก็ลงอักขระสักยันต์ลงตามร่างกาย เป็นหมึกบ้างน้ำมันบ้าง บางรายก็เขียนยันต์ลงตามร่างกาย บางรายก็เป่ายันต์ลงตามร่างกาย แล้วแต่ว่าใครจะเรียนมาแบบไหน ก็จะใช้วิชาตามที่ตนเรียนมา

แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือ เพื่อให้เกิดความเป็นมงคลแก่ตัวของผู้เข้าทำพิธีและเพื่อให้มีพลังงานมาประจุลงสู่ตัวของคนนั้นๆเมื่อมีพลังงานมาประจุแล้วก็จะส่งผลให้เนื้อหนังมีความคงทนต่อคมอาวุธทุกประเภทจนมีดฟันแทงไม่เข้า แต่ถ้าจะทำให้ตายต้องใช้ของแหลมแทงสวนทวารอย่างเดียว




วิชาคงกระพันชาตรีนั้นยังมีแยกออกไปอีก 9 วิชาวิชาอาพัด, เหล้า, หมาก, ใบพลู, ยาสูบ, พริกไทย, ว่านและรากไม้ต่างๆวิชานี้ใช้เสกของกินเพื่อให้เกิด
ความคงกระพันชาตรีวิชาปูนคาดคอวิชานี้ใช้เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรีวิชาเรียกน้ำมันเข้าตัววิชานี้ใช้เสกเรียกน้ำมันให้เข้าไปอยู่ในตัว เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรีวิชาอาบน้ำว่านวิชานี้ใช้อาบ เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรีวิชาอาบน้ำมันเดือดวิชานี้ใช้เสกอาบ เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรี แต่เวลาอาบจะไม่รู้สึกร้อนแต่อย่างใดวิชาเสกฝุ่นทาตัววิชานี้ใช้เสกฝุ่นทาตัว เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรี ในบางทีเรียกว่า“ หนุมารคลุกฝุ่น ”



วิชาสักยันต์วิชานี้จะใช้ของแหลมจุ่มหมึกหรือน้ำมันมาแทงลงบนผิวหนัง เพื่อให้เกิดเป็นยันต์ต่างๆเพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรีวิชาเขียนยันต์
วิชานี้จะใช้ของไม่แหลมจุ่มน้ำมันมาเขียนลงบนผิวหนังเพื่อให้เกิดเป็นยันต์ต่างๆ,เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรีวิชาเป่ายันต์วิชานี้จะใช้เป่ายันต์ต่างๆ เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรีวิชาชาตรี คนส่วนใหญ่มักเรียกรวมวิชาคงกระพัน กับ วิชาชาตรีเข้าด้วยกันเป็นวิชาคงกระพันชาตรีแต่ที่จริงแล้ววิชาชาตรีนั้นต่างจากวิชาคงกระพันตรงที่วิชาคงกระพันพันแทงไม่เข้าแต่ก็ยังมีความเจ็บปวดเกิดขี้นอยู่ แต่วิชาชาตรีนั้นทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเลย เพราะวิชาชาตรีนั้นทำให้ของหนักต่างๆที่จะมากระทบตัวจะเบาไปหมด คนที่สำเร็จวิชานี้สามารถกระโดดได้สูงเกินสามวาวิชานี้เป็นวิชาแต่งตัวแล้วบริกรรมคาถา
และเอามือทั้งสองลากไปตามตัวเรียกว่า “ ชักยันต์ ” แต่ส่วนมากมักจะเป็นวิชาของอิสลามวิชาแคล้วคลาด



วิชาแคล้วคลาดเป็นวิชาที่เหนือกว่าวิชาคงกระพันและวิชาชาตรีเพราะแม้มีคนมุ่งร้ายหมายจะทำอันตรายก็มิอาจจะทำอันตรายได้เป็นแคล้วคลาดทุกครั้งไป คือไม่เจอไม่โดนและไม่เจ็บ ถึงแม้จะสู้กันซึ่งหน้า ไม่ว่าจะเป็นยิงหรือฟันก็จะหลบเลี่ยงหลุดรอดได้ทุกครั้งไปโดยฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถทำอันตรายได้ แต่วิชานี้ส่วนมากจะถูกประจุอยู่ในเครื่องรางของขลังและลายสักยันต์ต่างๆรวมถึงการเขียนยันต์และการเป่ายันต์ด้วยวิชาแคล้วคลาดถือเป็นวิชาที่
เกจิอาจารย์ส่วนมากนิยมใช้กันอีกด้วย



วิชามหาอุด
วิชามหาอุดเป็นวิชาที่นำมาใช้เฉพาะ “กันปืน ” ถ้าผู้ใดสำเร็จวิชามหาอุด “เมื่อครั้งมีเหตุให้โดยยิงปืนที่จะยิงจะยิงไม่ออก ” หรือในบางครั้งอาจจะทำให้ปืนแตกคามือของผู้ยิงได้เลยวิชามหาอุดมักถูกเขียนลงตระกรุด ใช้กันปืนและมักจะเสกรวมกับวิชาคงกระพันและแคล้วคลาดเพื่อให้ขลังยิ่งขึ้น และเป็นการ
กันพลาดอีกด้วย คือ หากยิงออกก็ไม่โดนหากโดนก็ไม่เข้า เป็นต้น



วิชาแต่งคน
วิชาแต่งคนเป็นวิชาที่ใช้คุ้มครองตนเองและคนอื่น ในอดีตผู้เป็นแม่ทัพนายกองมักจะใช้วิชานี้คุ้มครองตนเองและลูกน้องให้รอดพ้นจากคมมีดคมกระสุน วิชานี้มักใช้เสกน้ำมันงาหรือปูนกินหมากทาใต้คางหรือบางรายใช้ทาตัว ทำให้คงกระพันเป็นอย่างดี

“ วิชาต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมดในอดีตจนถึงปัจจุบันพระสงค์และผู้มีวิชาอาคมทั้งหลายมักนำมาใช้ในการสร้างพระเครื่องและเครื่องรางของขลังเพื่อ
ใช้คุ้มครอง และให้เป็นสิริมงคลต่อผู้ที่นำไปบูชาในบางอาจารย์อาจจะนำมาใช้ในการลงอักขระสักยันต์ลงบนร่างกายอีกด้วย ”




" อิ่น " คือเครื่องรางแห่งความรัก ความเมตตา กรุณาปราณี เป็นวิชามหาเสน่ห์ชั้นสูงของคนล้านนาโบราณ รูปคนกอดกัน คือการหลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียว ถ่ายทอดความรัก ความเมตตากรุณา จากหัวใจไหลรินสู่กันและกัน ยอมรับกันและกัน ส่งพลัง กำลังใจความห่วงหาอาทร ความอ่อนโยน การให้อภัย เติมเต็มจิตวิญญาน เกิดเป็นความสมบูรณ์แห่งพลังชีวิต นำไปสู่การก่อกำเนิดทุกสรรพสิ่ง เกิดความสมดุลย์ สมบูรณ์พูนสุข ความมีชีวิตชีวา ความสำเร็จ ความมั่งคั่งล้นเหลือ ความสมปรารถนานานัปประการของชีวิต

อิ่นเมตตาหลวง เบญจภาคีเครื่องรางมหาเสน่ห์อันดับหนึ่งแห่งล้านนา เล่าขานกันว่า...เป็นเครื่องรางเสน่ห์ชั้นสูง บ้านใดมีอิ่นไว้ในบ้านๆนั้นก็จะมีแต่ความรักใคร่เมตตาปรองดองกัน ไม่มีเรื่องให้ทะเลาะผิดใจกัน เป็นเครื่องรางที่ต้องมีติดกาย ติดบ้านเรือน ติดห้องนอนห้องหอ ชนชั้นสูง เจ้าขุนมูลนาย จะหวงแหนกันมาก จะมอบอิ่นอันศักดิ์สิทธิ์สูงค่าของพ่อแม่ไว้ให้ลูกหลานในวันแต่งงาน และเป็นของขวัญล้ำค่าที่คนรักจะมอบให้แก่กัน

 อิ่นเมตตาหลวงนี้ อิทธิคุณแรงมาก เป็นที่หนึ่งในด้านมหานิยม มหาเสน่ห์ ช่วยในเรื่องการเจรจาค้าขาย เข้าหาเจ้านาย เป็นมหาอำนาจแห่งเสน่ห์มหานิยมเหนือจิตใจคนทั้งหลาย เป็นที่รักของคนและเทวดา รวมไปถึง คุ้มครองแคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจดลบันดาลพันช่องพันประการ กันภูตผีปีศาจ แม้แต่เทวดาอยู่บนชั้นฟ้า ยังต้องลงมาปกปักรักษาดูแลผู้ที่มีอิ่นไว้ครอบครอง

" อิ่นเมตตาหลวง " สร้างจากมวลสารอันเป็นมหามงคลทนสิทธิ์ชั้นสูงทั้งสิ้น ปลุกเสก ปั้น-เผา ร่ายเวทย์เรียกสูตรครบธาตุ ปลุกคาถาแช่น้ำมันจันทร์ - น้ำมันกฤษณา ว่านยาเมตตาโชคลาภมหาเสน่ห์108 อาบแสงจันทร์ 22 คืนเพ็ญ ร่ายมนต์เรียกสูตรปลุกอักขระมหาเวทย์คาถาจนเกิดพลังธาตุมหาอำนาจ มีฤทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม อำนาจ เดชะ โชคลาภ ดลบันดาลได้พันช่องพันเรื่อง ตามแต่อธิษฐาน



" อิ่นเมตตาหลวง " คือสัจธรรมแห่งสรรพสิ่งล้วนเป็นคู่ ผสมสานกันระหว่าง " ปัญญา " กับ " กรุณา " ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว หลอมรวมเป็น " ความรัก " ซึ่งนั้นคือพลังอำนาจของ " อิ่น " เครื่องรางแห่งความรัก เมตตา อันเป็นการก่อเกิดกำเนิดทุกสรรพสิ่ง คือความสำเร็จ คือความสมปรารถนาทุกปราการ



คุณวิเศษของอิ่น
ใช้ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ได้พันช่อง (สารพัดทางเสน่ห์) บูชาเพื่อให้คนในบ้านรักกัน เรียกโชคลาภ เงินทอง ค้าขายดี ทำมาค้าขึ้น เรียกทรัพย์ลาภผลข้าวของเงินทอง ครอบครัวอยู่ดีมีสุข คนในบ้านจะชุ่มเย็นกาย ชุ่มเย็นจิต อิ่นเป็นตัวแทนของการเกิด ความงอกงาม และ ความสมดุล (หยิน หยาง) 


คนล้านนาเชื่อว่าการที่ได้มีอิ่นไว้บูชาจะทำให้คนทั้งหลายเมตตารักใคร่ มีไว้กับบ้านเรือน จะทำให้คนในบ้านนั้น ครอบครัวนั้น รักใคร่กลมเกลียวกัน เมตตาเอื้ออาทรกัน หากมีติดกายบูชาไว้ติดตัวก็จะทำให้มีเสน่ห์สุดยอดเมตตา มหานิยม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภ ข้าวของเงินทองไหลมาเทมา อิ่นจึงเป็นเครื่องรางที่นิยมตั้งแต่ล้านนาในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ถึงตอนนี้อิ่นยังได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย

อันว่า อิ่นหลวงเมตตามหาเสน่ห์นั้น จุดประสงค์แห่งครูบาอาจารย์คือ " ต้องการให้ผู้ที่บูชาอิ่นติดกายมีกระแสความเมตตาคุ้มครองคุ้มภัย ให้เป็นที่รักใคร่น่าเมตตาเอ็นดู เข้าเจ้ารักนายเมตตา ข้าบริวารเกรงใจให้ความเคารพ ทำอะไรก็สำเร็จง่ายๆ ด้วยคนทั้งหลายล้วนรักใคร่ เมตตา ปราณี " 

คงไม่มีใครปฎิเสธว่าไม่อยากให้มีใครมารัก มาเอ็นดู ไสยเวทย์ทางเสน่ห์เมตตาจึงเกิดขึ้นเพื่อช่วยเสริมวาสนา หนุนชะตาราศี ให้กับผู้ที่มีชะตาต่ำเรื่องเสน่ห์ เมตตา มหานิยม ไร้คนรักใคร่เอ็นดู บางคนพูดจาอะไรคนก็ไม่เชื่อถือ ไม่ชอบหน้า ไม่อยากฟัง คอยกดข่ม รังเกียจ รังแก อยู่ร่ำไป มีความรักก็ต้องเป็นรอง โดนเบื่อหน่ายทอดทิ้ง ค้าขายก็ไร้เสน่ห์เรียกลูกค้าไม่ได้ เงินทองขาดมือ ทำธุรกิจการค้าใดใด ก็ไร้คนเมตตาค้ำคูณช่วยเหลือ ปัญหาจากเรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคนรอบกายไร้ซึ่งความเมตตา ต้องตกเป็นเบี้ยรองบ่อน โดนเขาเอาเปรียบรังแกอยู่ร่ำไป
ความปรารถนาแห่งครูบาอาจารย์ ท่านจึงสร้างปลุกเสกสรรพเครื่องรางมหามงคล ด้านมหาเสน่ห์ เมตตาโชคลาภ มหานิยม ไว้เกื้อหนุนค้ำคูณผู้มีชะตาต่ำเช่นนี้ให้สามารถดำเนินชีวิตในวิถีทางโลก วิถีแห่งมนุษย์ ได้มีสุข สงบ ประสบความสุข ความดี ความสำเร็จตามปรารถนา
" หากมนุษย์ผู้ใดถือวิสัยในการครองอยู่เรือน
จิตใจของเขาย่อมมีกิเลสเจือปนมาไม่มากก็น้อย
ต่างคนต่างก็คิดว่า ทุกคนที่ได้พบเห็นมีศักดิ์ต่ำ มีศักดิ์สูง
ทั้งๆที่ความจริงนั้นมิมีอันใดเลย
ผู้ที่คิดว่าเขาศักดิ์สูง
เพราะเขาเจือปนกับผู้ที่ด้อยกว่าเขาในบางเรื่องของชีวิต
ผู้ที่คิดว่าเขาศักดิ์น้อย
เหตุเพราะเขาได้เจือปนคุ้นเคย
อยู่ในหมู่คนที่มีข้าวของเงินทองมากกว่าเขา
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความคิดพิจารณาแห่งเขา
โดยมีผู้รองรับฐานความคิดคือ " จิต " ของเขา
เมื่อผู้ใดคิดว่าตนเองนั้นด้อย
จิตของเขาในตอนนั้น
จะมีความเข้มข้นของพลังด้านบวกน้อย
เพราะจิตภายในของเขาผู้นั้นหดหู่
เมื่อผู้ใดคิดว่าตนเองนั้นเหนือผู้ใด
จิตของเขาในตอนนั้น
จะมีความหนาแน่นของพลังด้านบวกมาก
เพราะจิตของเขานั้นฮึกเฮิม
หากผู้ที่มีชะตาด้อยกว่าเขานั้น
จะต้องหล่อหลอมจิตใจของตน
ให้มีพลังอำนาจอยู่เหนือจิตใจผู้ใด
ผู้นั้นจึงจะมีชีวิตอันสมบูรณ์ไม่ด้อยกว่าผู้อื่น
แต่เหตุที่จะหล่อหลอมจิตผู้นั้นให้มีพลังอำนาจสูงสุด
ก็ต้องมีเครื่องช่วยเติมเต็มภายในชีวิตเขา
สิ่งนั้นคือ ..

" เครื่องรางที่เสริมพลังจิตตานุภาพให้มีฤทธิ์อิทธิคุณด้านเมตตา มหาเสน่ห์ พกติดกายไว้ให้จิตมีฤทธิ์ ความคิดมีอำนาจ ใครเห็นก็รักใคร่ไหลหลง " 




 " อิ่นเมตตาหลวง " จึงประสิทธิ์ขึ้นมาเพื่อเสริมให้ผู้ที่ถือวิชา มีพลังอำนาจทางด้านมหาเมตตา มหาเสน่ห์ คนรัก คนหลง คนนิยม คนทั้งหลายเอ็นดู ปลุกเสกด้วยมหาเวทย์คาถา มวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ ผสานมหาอำนาจแรงจิตแห่งครูบาอาจารย์ ประสิทธิ์ลงสู่อิ่นเมตตาหลวงให้มีอำนาจจิตตานุภาพแรงกล้าเหลือล้น สูงเกินกว่ากำลังจิตเดิมของผู้บูชา เป็นกระแสพลังอำนาจแห่งถ้อยคาถามหามงคลอันดีงาม พลังแห่งความเมตตากรุณา มหาอำนาจกุมจิตมัดใจ เมื่อกระแสพลังนี้ไปกระทบจิตผู้ใด เขาจะไม่มองว่าเราต่ำต้อยด้อยกว่าเขา คลื่นพลังจิตเราจะเหนือว่าเขา เขาก็จะยอมเรา จะเมตตาเรา รักใคร่เอ็นดู เกิดความเมตตาปราณี เกื้อกูล อุดหนุนค้ำชูเรา ที่โกรธเกลียดจะให้อภัยกลายเป็นรักใคร่ นิยม ชื่นชม ชื่นชอบ ที่เอาเปรียบรังแกก็จะมาช่วยเหลือค้ำคูณกัน ที่ร้างราห่างไกล ก็จะคิดถึงอาวรณ์ห่วงหา เกิดความรักใคร่เมตตาผูกพัน อันมิใช่การทำเสน่ห์สายต่ำ มีแต่ความรัก ความเมตตา ความเป็นศิริมงคลทั้งสิ้น





" อิ่นเมตตาหลวง " สร้างจากมวลสารอันเป็นมหามงคลทนสิทธิ์ชั้นสูงทั้งสิ้น ปลุกเสก ปั้น-เผา ร่ายเวทย์เรียกสูตรครบธาตุ ปลุกคาถาแช่น้ำมันจันทร์ - น้ำมันกฤษณา ว่านยาเมตตาโชคลาภมหาเสน่ห์108 อาบแสงจันทร์ 22 คืนเพ็ญ ร่ายมนต์เรียกสูตรปลุกอักขระมหาเวทย์คาถาจนเกิดพลังธาตุมหาอำนาจ มีฤทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม อำนาจ เดชะ โชคลาภ ดลบันดาลได้พันช่องพันเรื่อง ตามแต่อธิษฐาน

มวลสารศักดิ์สิทธ์บางส่วนในการจัดสร้าง "อิ่นเมตตาหลวง"

ลูกปัดทราวดีโบราณ หินนาคสวย ผงดินอาถรรพ์จากหลากหลายสถานที่สวยงามคนนิยม ผงดินจากหลากหลายร้านอาหารขายดีมากคนนิยม มวลสารว่านยามหามงคล ว่านยามหาเสน่ห์เมตตาครบสูตร ผงแก้วโป่งข่ามรัตนชาติศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 12 ชนิด ผงทองคำนพคุณทองเนื้อเก้าบางสะพาน ผงเงิน ผงอัญมณีนพเก้า ผงลบมหาเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ มหาอุจจ์ กาฝาก15ชนิด  {เคล็ดพลังเลข6แห่งดาวศุกร์ เป็นมหาเสน่ห์ มหาเศรษฐี สวยงามโดดเด่นเจิดจ้า น่าลุ่มหลง} มีกาฝากรัก-กาฝากาหลง-รักซ้อน-มะยม-มะรุม-มะขาม -ขนุน--ยอ-คูณ-พยูง-สัก-กันเกรา-มะดัน-มะค่า-กฤษณา (อานุภาพกาฝาก คือ ได้อะไรมาง่ายๆป้อนถึงปาก ชีวิตไม่ลำบาก มีมหาเสน่ห์ดึงดูดจิตผูกมัดใจผู้คน มีเมตตา มหานิยม มหาอำนาจ มั่งมีโชคลาภ ค้าขายดี แคล้วคลาด กันภัย*) วัตถุอาถรรพ์ผงกะลาตาเดียว กะลามหาอุจจ์ กะลาแปดตา และมวลสารอาถรรพ์ทนสิทธิ์อันเป็นความลับจากปั๊บสาตำราไสยเวทย์ล้านนาโบราณหลายร้อยปี ที่พระอาจารย์เก็บสะสมมายาวนาน
"อิ่นเมตตาหลวง " เป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์ เมตตาโชคลาภ สายขาว ไม่มีของต่ำ ไม่มีผีไม่มีพราย มวลสารทั้งสิ้นล้วนเป็นสิ่งอันเป็นมงคล และ เวทย์คาถาอันศักดิ์สิทธิ์เป็นมหามงคลชีวิตแห่งครูบาอาจารย์ประสิทธ์อาคมลงไว้ทั้งสิ้น ผู้บูชาไปใช้ให้หมั่นสวดภาวนาคาถาเชื่อมพลังจิตเชื่อมบุญกับครูบาอาจารย์ ร่ายคาถาปลุกฤทธิ์อิ่นด้วยจิตสว่างสงบ และอธิษฐาน เช้า-ค่ำ

รักษาความคิดให้เป็นมงคล รักษาคำพูดให้เป็นมงคล รักษาการกระทำให้เป็นมงคล ประพฤติตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่อธิษฐานปรารถนา ไม่คิดลบ ไม่พูดร้าย ไม่ทำผิดคิดชั่วเบียดเบียนใคร ทุกๆคำอธิษฐานก็จะสำเร็จสมประสงค์โดยไม่มีข้อยกเว้น !!!

อธิษฐานอะไรแล้วสำเร็จ ก็ให้ร่ายคาถา 108 จบ ทำสมาธิ ส่งกระแสบุญถึงครูบาอาจารย์ และหมั่นสร้างบุญ ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ ไม่ต้องเลี้ยงอิ่นไม่ต้องถวายอะไร เพราะอิ่นไม่มีวิญญาน ไม่มีผี ไม่มีพราย ไม่มีของต่ำมนต์ดำใดใด พาเข้าวัดได้ พกติดตัวไปปฎิบัติธรรมได้ ( ยิ่งหมั่นสวดบริกรรมคาถายิ่งเพิ่มฤทธิ์ให้อิ่นทวีคูณ)

หมั่นกำอิ่นสวดคาถาบูชา ปลุกฤทธิ์เสริมเดชอิ่น เช้า-ค่ำ
22 จบตากำลังจันทร์มหาเสน่ห์ มหาอำนาจ ดีมาก
108 จบ เช้า-ค่ำ ดียิ่งเอนกอนันต์
จบสุดท้าย สวดแบบปิดทวาร แล้วตั้งจิตอธิษฐาน
สำเร็จสมปรารถนา ผ่านได้ทุกเรื่อง




อำนาจแห่งคาถานางมัทรี
นางมัทรีเข้าป่าแสวงหาผลไม้ ไปทางทิศใดก็หาอันตรายบ่มิได้ เป็นที่รักใคร่ของเทวดาทั้งหลาย ไม่ต้องอุบาทว์ โรคภัย ผู้ใดภาวนาหมั่นสวดคาถาบูชาสีผึ้งนางมัทรี ปลุกฤทธิ์อิ่นเมตตาหลวงนี้ แม้นนอนในป่าดงด่านผี ศัตรูงูเงี้ยวทำอันตรายมิได้ด้วยมีจิตคิดเมตตา เทวดารักษาไม่ขาดสายนั้นแล ..ทางล้านนานั้นพระสงฆ์องค์เณรเจิมทากันภูติผี สัตว์ร้ายยามออกธุดงค์ และท่านว่า..พระรูปใดออกบิณฑบาตเจิมสีผึ้งภาวนาคาถานี้ไม่มีอดเลย..ครูบาอาจารย์ท่านว่าอย่างนั้น​






ปรารถนาสิ่งใดอย่างแรงกล้าให้เขียนดวงชะตา กำกับคำอธิษฐานใส่ไว้ในกายอิ่น ขอได้ทีละเรื่อง สำเร็จทีละอย่าง หมั่นสวดคาถาบูชาครู ปลุกฤทธิ์อิ่นเช้า-ค่ำ เอ่ยคำอธิษฐานที่ท่านเขียนไว้ในอิ่นทุกวัน ทุกค่ำเช้า ร่ายคาถาด้วยจิตอันประภัสสร สุข สว่าง สะอาด สงบ คิดถึงแต่ภาพที่ต้องการมี ต้องการได้ ต้องการเป็น พูดในถ้อยคำอันไพเราะอ่อนหวาน เป็นมงคล ไม่ด่าไม่สาปแช่งใคร เชื่อมั่นศรัทธาในแรงครูบาอาจารย์ ท่านก็จะค้ำคูณให้ทุกๆคำอธิษฐานสำเร็จ สัมฤทธิ์ เป็นจริง





พกอิ่นติดตัวไว้เป็นสุดยอดมหาเสน่ห์เมตตา คู่รัก-คู่สามีภรรยาใดบูชาอิ่นไว้ ลงกำกับชื่อสองดวงชะตาคู่กันใส่ไว้ในกายอิ่น หมั่นร่ายคาถาบูชาครูปลุกฤทธิ์อิ่น ท่านว่า..คู่รักจะรักใคร่เมตตาถวิลหา เอื้ออาทรกันมิเสื่อมมิคลายเลย

ยามเข้าตาจนหน้าสิ่วหน้าขวานหาทองออกไม่เจอ แก้ปัญหาไม่ได้ นำอิ่นออกมากำและสวดคาถาแบบปิดทวารระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์แล้วอธิษฐาน ด้วยจิตนิ่งสงบมั่นคง มั่นใจ เชื่อมั่นศรัทธา แล้วปาฎิหาริย์จะบังเกิด!!!

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
คุณต้องจำไว้ว่า
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
"อิ่น" จะดลบันดาลให้ในสิ่งที่คุณแสดงออก กระทำ พูด คิด อธิษฐาน บ่อยๆ "อิ่น" แยกแยะไม่ได้ว่าสิ่งใดคือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ หรือคุณบ่น ประชด กระทบกระแทก อิ่นจะบันดาลในสิ่งที่คุณพูดบ่อยๆ อธิษฐานถึงบ่อยๆ อิ่นจะดลบันดาลสิ่งนั้น ดังนั้น คุณต้องกระทำต้องแสดงออก และพูดแต่สิ่งที่คุณการมี ต้องการได้ ต้องการเป็น กับอิ่นของคุณบ่อยๆ ด้วยความเชื่อมั่นศรัทธา ไม่ลังเลสงสัย ไม่เอ๊ะไม่ถ้าไม่เผื่อไม่อย่างนั้นอย่างนี้ ห้ามพูดลบ พูดร้าย พูดไม่ได้ "อิ่น" แยกแยะไม่ได้ และจะเข้าใจว่าสิ่งที่คุณพูด และคิด คือสิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริง!!! ครูบาอาจารย์ท่านจึงบอกว่า หมั่นสวดบูชาไปเถิดเช้าค่ำ อธิษฐานสิ่งใดนั้นได้แน่ๆ ช้าเร็วไม่รู้ตามกำลังจิตพลังใจ รู้แต่ว่าเมื่อความสำเร็จมันมาถึง จะได้แบบเกินคาดหมาย ยิ่งใหญ่กว่าที่คาดหวัง


ตัดกระดาษขนาดประมาณ 3.5 เซนติเมตร x 1.5 เซนติเมตร เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สองคู่รัก หากไม่ทราบวันเดือนปีเกิดเขาก็ให้เขียนแค่ ชื่อ นามสกุล เท่าที่รู้ และคำอธิษฐาน แล้วม้วนกระดาษใส่เข้าไปภายในตัวอิ่น 



***ณ ขณะที่ตัดกระดาษ ลงมือเขียนอักษร จิตใจต้องสงบนิ่ง จิตต้องประภัสสร สุข สว่าง สงบ สดใส มีความเบิกบาน มีความสุขในแบบที่เราต้องการมี ต้องการเป็นต้องการได้ ระลึกให้เห็นภาพเรากับคนที่เรารักอย่างมีความสุขใจ เบิกบาน มีความรักความเมตตาความปรารถนาดี ส่งไปถึงเขา ส่งความรักความเมตตาไปกระทบจิตเขา นึกให้เห็นภาพเขา หากยังมีความกังวล หม่นหมอง เศร้าใจ อย่าเพิ่งเขียนเด็ดขาด รอให้จิตสงบๆก่อนค่อยเริ่ม  จงจำไว้ว่า อิ่นจะดลบันดาลในสิ่งที่คุณ ทำ พูด คิด อธิษฐาน และแสดงออก.. อิ่นจะแยกแยะไม่ได้ ว่าอันไหนคุณบ่น คุณประชด และอันไหนคือคุณอยากได้จริงๆ

- หากขอเรื่องอื่นๆ เช่นขอเงิน ของาน ก็คิดให้เห็นภาพว่าเรามีเงินจำนวนมากๆ ได้งานที่รักพอใจแล้วจริงๆ 
- หากขอเรื่องค้าขาย ก็ให้นึกภาพที่เราต้องการให้เกิดขึ้น คนหลั่งไหลมาซื้อของเรามากมาย เงินทองกองล้น สินค้าขายดีมาก
- หากขอให้หมดหนี้สิน ก็ให้นึกภาพเรามีเงินทองมากมาย งานดี เงินดี ค้าขายดี ชีวิตดีมีความสุข
- หากขอให้ผู้ใหญ่เมตตา คู่ค้าคู่ความเอ็นดูเมตตาให้ประโยชน์โชคลาภ ก็ให้นึกถึงหน้าเขาด้วยจิตใจที่ดีงาม มีความรัก ความกรุณาปราณีเมตตาต่อเขา
-  สวดแบบปิดทวารก่อนอธิษฐานทุกครั้ง
**อย่าลืมว่า "ต้องกระทำ" ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราอธิษฐานด้วย ทั้งการกระทำ คำพูด ความคิด ไม่ใช่อธิษฐานให้ขายดีแล้วนอนเกาพุงฝันหวานรอ ต้องทำงาน มีมานะ วิริยะ อุตสาหะ ต้องคิดพัฒนาร้าน คิดพัฒนาสินค้า เตรียมพร้อมรับลูกค้ามากมาย และเงินก้อนใหญ่ เพื่อให้ปาฎิหาริย์เกิดและคำอธิษฐานเป็นจริง

การเขียนคำอธิษฐาน ถ้าไม่ใช่เรื่องความรัก ก็เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของเจ้าของอิ่น และคำอธิษฐาน 1 เรื่องที่สำคัญยิ่ง ต้องการด่วน ลงไป


คาถาปลุกฤทธิ์ "อิ่น" คือ "คาถาสีผึ้งนางมัทรี" ท่องจำให้ได้ขึ้นใจห้ามอ่าน!! หมั่นสวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่นเช้า-ค่ำ กี่จบก็ได้สวดตามกำลังใจ มากจบยิ่งดี อิ่นคู่ใดเจ้าของหมั่นปลุกฤทธิ์ปลุกธาตุร่ายคาถา อิ่นคู่นั้นจะยิ่งศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์อิทธิคุณสูงยิ่งนักฯ. การหมั่นสวดคาถา คือการเชื่อมจิต เชื่อมบุญถึงครูบาอาจารย์ ขออำนาจบุญบารมีท่านมาเสริมกำลังบุญหนุนดวงชะตา ค้ำคูณเรา และเป็นการรวมจิตให้นิ่งมีกำลัง เพื่อทุกคำอธิษฐานจะสำเร็จ สัมฤทธิ์ผลเป็นจริงในเร็ววัน




"คาถาสีผึ้งนางมัทรี" สวดปลุกอิ่น ไม่ต้องว่า นะโมก่อน เพราะเนื้อคาถาเป็นเรื่องทางโลก ให้ว่าคาถาเลย เมื่อท่านบูชาอิ่น จงเข้าใจเคล็ดลับไสยเวทย์แห่งอิ่นด้วยว่า อิ่นคือความรัก ความเมตตา กรุณาปราณี อิ่นทำให้คนรักกัน เมื่ออยากได้ความรัก จงให้ความรักก่อน อิ่นดลบันดาลความมั่งคั่ง ลาภ ยศ เงินทอง ความสำเร็จ ท่านก็จงเป็นผู้หมั่นทำทาน รักษาศีลเป็นนิตย์ อิ่นมีฤทธิ์ทางมหาเสน่ห์เมตตา มหานิยม ท่านก็จงเป็นผู้มีจิตใจงามวาจาอ่อนหวาน พูดถ้อยคำมงคลอยู่เสมอ เพียงทำได้ดั่งนี้ "อิ่นเมตตาหลวง" ก็จะมีอำนาจดลบันดาลได้ดั่งแก้วสารพัดนึก 

"อิ่นเมตตาหลวง" คือจิตใจอันเมตตากรุณามีไมตรีจิต จิตเมตตากรุณาทำสิ่งใดย่อมสำเร็จ เป็นมหานิยม อุดมโชคลาภ "อิ่น"แทนกำเนิดทุกสิ่ง สัตว์ ภูติ เทวดา มาร พรหมล้วนเคยเกิดในโลก คนใช้อิ่นในทางชั่ว ย่อมมัวหมองบาปกรรมย่อมตามสนอง บาปกรรมจองเวรตามไปทุกชาติภพ " อิ่น " เป็นตัวช่วยในเรื่องโลกๆ ที่ยังต้องกินต้องใช้ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม ไม่ใช่เอาไปผิดศีล ทำร้ายทำลายกดข่มผู้อื่น ทุกศาสตร์ย่อมมีความหมาย ทุกความหมายย่อมพ้นความงมงายด้วยปัญญา คนดีจึงใช้ของดี ของดีย่อมทำลายใจอกุศล คำสาปวิชาจึงมีไว้ ผู้ทำกรรมเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น

อิ่นหรือรูปชายหญิงกอดกัน แสดงการกำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนาม แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า #ภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้ให้ตื่นจากความหลงความโลภความโกรธ จิตจึงเป็นอิสระ จากเครื่องผูกมัดกายใจ ลด ละ อัตตา เชื่อมโยงจิตวิญญานความรัก ความศรัทธา ด้วยความรัก ความเมตตา ความศรัทธา และความเคารพซึ่งกันและกัน ให้จิตตื่นรื่นเริงยินดีในการให้ มีความรัก ความเมตตา การให้อภัย อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน อันเป็นสุดยอดแห่งเสน่ห์ เมตตามหานิยม ที่มีอำนาจมหาศาลในการดลบันดาลทุกๆ สิ่งให้สมใจปรารถนา


อิ่นมหาเสน่ห์อันดับหนึ่งเบญจภาคีเครื่องรางล้านนานี้ เล่าขานกันว่า..อิ่นเป็นเครื่องรางชั้นสูง บ้านใดมีอิ่นไว้ในบ้านๆนั้นก็จะมีแต่ความรักไม่มีเรื่องให้ทะเลาะหรือผิดใจกัน เป็นเครื่องรางที่ควรมีติดกาย ติดบ้านเรือน ติดห้องนอนห้องหอ ชนชั้นสูง เจ้าขุนมูลนาย จะหวงแหนกันมาก จะมอบอิ่นอันศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่ไว้ให้ลูกหลานในวันแต่งงาน และเป็นของขวัญสูงค่าที่คนรักจะมอบให้แก่กันและกัน 
อิ่นเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก แรงมากในด้านมหานิยมมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เป็นที่หนึ่งด้านมหาเสน่ห์ มหานิยม ช่วยในเรื่องการเจรจาค้าขาย เข้าหาเจ้านาย เป็นที่รักของคนและเทวดา รวมไปถึง แคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจดลบันดาลพันช่องพันประการ กันภูตผีปีศาจ แม้แต่เทวดาอยู่บนชั้นฟ้า ยังต้องลงมาปกปักรักษาดูแลผู้ที่มีอิ่นไว้ครอบครอง


อิ่นเมตตาหลวงนี้ มีฤทธิ์ทางใจ ออกฤทธิ์ทางวาจาการเจรจา ทำให้คนทั้งหลายเมตตารักใคร่ บังเกิดเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รัก จากไปก็อาลัยคิดถึง เจรจาสิ่งใดก็น่าเชื่อถือ เข้ามาอุดหนุนแล้วก็อยากเวียนมาอีก ทั้งหมดนี้เป็นไปด้วยแรงเมตตา โชคลาภหลั่งไหล หนุนดวงเสริมวาสนาบารมี

ก่อนจะใช้ .. ให้ตั้งจิตแน่วแน่ สวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น .. แล้วอธิษฐานใช้ตามความปรารถนาใช้ได้ครบทุกๆ ด้าน เพียงแต่ว่าเจตนาของผู้ใช้ จะประสงค์สิ่งใด สำคัญ!! อยู่ที่จิต ขอให้จิตนิ่งแน่วแน่ ระลึกถึงครูบาอาจารย์ อยู่ในศีลธรรมคุณงามความดี ก็จะสำเร็จได้ดั่งอัศจรรย์ !!!




ผู้ใดมีอิ่นไว้ติดตัวย่อมมีอำนาจเหนือจิตใจของเพศตรงข้าม มีอำนาจในทางดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้เพศตรงข้ามคิดถึงตัวเราเสมอๆ เกิดความรักความต้องการที่จะใกล้ชิด อิ่นเมตตาหลวงเป็นเครื่องรางที่ดลบันดาลความรัก ความผูกพัน หากใครที่อยากมีความรักและอยากให้เขาก็รักเราเช่นกันก็ให้บูชาติดกายไว้หมั่นสวดปลุกฤทธิ์อิ่น ท่านว่าจะได้สมดั่งใจแลฯ

คนที่มีคู่อยู่แล้ว คู่เหินห่างไม่ค่อยใยดี ท่านว่าให้นำอิ่นเมตตาหลวง พกติดตัวทำการอธิษฐานต่ออิ่น ไม่ช้าไม่นานคู่รักจะคืนดีด้วยอย่างน่าอัศจรรย์ คู่สามีภรรยาที่แตกแยกกัน สามีนอกใจภรรยา ภรรยานอกใจสามี จะกลับมารักใคร่กลมเกลียวกัน ส่วนคู่ที่รักกันอยู่แล้วก็จะรักยิ่งๆ ขึ้นไป ผูกจิตให้รักผูกใจให้คิดถึงคะนึงหามิรู้ลืม มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น ให้บังเกิดความเมตตารักใคร่






สนใจบูชา สอบถามเคล็ดลับการบูชาได้ที่ 
หมิง หมิง
LINE : @namotasa (ใส่@ด้วย)







สนใจบูชา สอบถามเคล็ดลับการบูชาได้ที่ 
หมิง หมิง
LINE : @namotasa (ใส่@ด้วย)























































































สนใจบูชา สอบถามเคล็ดลับการบูชาได้ที่ 
หมิง หมิง
LINE : @namotasa (ใส่@ด้วย)