วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

คู่บุญคืออะไร คู่บุญนั้นมีจริงไหม ลักษณะจะเป็นอย่างไร แล้วชาตินี้เราจะได้พบเจอหรือไม่




คู่บุญ กัลยาณมิตรที่พากันไปสู่ความเจริญ

คู่บุญนั้นมีจริงไหม ลักษณะจะเป็นอย่างไร แล้วชาตินี้เราจะได้พบเจอหรือไม่ ในบทความนี้ก็จะมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นเหล่านี้กัน

คู่บุญคืออะไร

ความหมายของคู่บุญนั้นก็คือ คู่ที่พากันเจริญไปอย่างเดียว พากันทำสิ่งที่ดีงาม พากันชำระกิเลส พากันศึกษาธรรม เจริญในศีลขึ้นไปเรื่อยๆ ดูแลเกื้อกูลกัน เป็นกัลยาณมิตรที่คอยตักเตือน สร้างเหตุแห่งการพ้นทุกข์ไปด้วยกัน

การเป็นคู่บุญนั้นจะไม่พากันไปในทางเสื่อม ไม่พากันไปสะสมกิเลส ถ้าเป็นคู่ชายหญิง ก็จะไม่คบหากันเหมือนคู่รัก แต่จะมีสถานะเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลย เพราะการเป็นมากกว่าเพื่อนนั้นเป็นทางที่เสื่อมจากธรรม เป็นทางของกิเลส เป็นเรื่องของความหลง ผู้ที่จะพากันไปเจริญย่อมไม่ยินดีผูกมัดกันด้วยเรื่องทางโลกเช่นการแต่งงาน

เพราะการคบหากันเป็นคู่รักตลอดจนแต่งงานนั้น เป็นทางเดินที่เต็มไปด้วยการบำเรอกิเลสแก่กัน เป็นการสร้างความผูกมัดในบ่วงกรรมของกันและกัน ผู้ที่จะพากันเจริญย่อมไม่ผูกมัดกันด้วยอกุศลกรรมใดๆ แต่จะผูกมัดกันด้วยกุศลกรรมเท่านั้น เรียกได้ว่าชั่วไม่ทำ พากันทำแต่ความดี

ซึ่งก็จะไม่มีความหลงหรือความลำเอียงใดๆ อันเกิดจากกิเลสให้ต้องพัวพันกันด้วยเรื่องอกุศล คู่บุญจึงเหมือนเพื่อนนักปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง ที่เรามองว่าเหมือนกับเพื่อนคนอื่นทั่วๆไปบนโลก ดังนั้นจึงสามารถคอยตักเตือนให้เห็นความจริงตามความเป็นจริงได้

คู่บุญเกิดมาได้อย่างไร?

คู่บุญเกิดมาจากกรรมดีที่ทำมาร่วมกันมาหลายต่อหลายชาติ จึงเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดให้กลับมาทำดีร่วมกันต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีคู่บุญที่พากันเจริญ เพราะการจะมีคู่ปฏิบัติธรรมนั้นต้องหยุดชั่วทำดีให้มากพอที่จะมีกรรมดีให้คงสถานะมิตรต่อไปด้วย

การเป็นคู่รักกันนั้นยากยิ่งนักที่จะกลายเป็นคู่บุญ เพราะจะมีกรรมชั่วที่ร่วมกันเสพมากมาย ทั้งเอาแต่ใจ ทั้งทะเลาะกัน ทั้งตบตีกัน ทั้งสมสู่กัน ถึงจะพากันทำดีในบางช่วงของชีวิตแต่ก็ต้องมารับกรรมชั่วที่ทั้งคู่ทำอยู่ดี จึงทำให้เกิดผลเจริญได้ยาก เพราะจะมีรักกันบ้าง ชังกันบ้าง โกรธกันบ้าง เกลียดกันบ้าง อาฆาตกันบ้าง คู่รักจึงมีหนี้บาปหนี้กรรมที่ต้องให้มาชดใช้กันมากกว่าพากันไปเจริญ

คู่บุญกัลยาณมิตร

การเป็นคู่บุญนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนต่างเพศ จะเป็นเพศเดียวกันก็ได้ วัยเดียวกันก็ได้ ต่างวัยก็ได้ ซึ่งก็คือคนที่เข้ามาเกื้อกูลกันและกันให้เจริญขึ้นไปในทางธรรม

ยกตัวอย่างเช่นพระโมคคัลลานะกับพระสารีบุตร ท่านก็เป็นเพื่อนกัลยาณมิตรที่ปฏิบัติธรรมร่วมกันมาหลายชาติ เกิดชาติไหนก็มักจะเป็นเพื่อนกัน ช่วยเหลือกัน พากันเจริญร่วมกันอยู่เสมอ นี้คือลักษณะของนักปฏิบัติธรรมที่เกิดมาเป็นคู่ บำเพ็ญเพียรเป็นคู่

ในกรณีต่างเพศหรือต่างวัยก็เช่นกัน สามารถเป็นคู่บุญได้ แต่ลักษณะของคู่บุญที่แท้จริงแล้วจะเอื้อให้เกิดมาเรียนรู้ร่วมกันด้วยโอกาสที่สะดวกที่สุด การมาเป็นเพื่อนนักปฏิบัติธรรมชายหญิงนั้นก็อาจจะไม่สะดวกนัก หรือในคู่ที่ต่างวัยกันก็อาจจะมีคนหนึ่งชิงตายไปเสียก่อน ดังนั้นคู่บุญที่บำเพ็ญบารมีร่วมกันมาหลายต่อหลายชาติมักจะเกิดในเพศและวัย รวมถึงองค์ประกอบต่างๆในชีวิตที่ใกล้เคียงกันเพื่อเอื้อให้เกิดการเจริญในธรรมได้ดีที่สุด

คู่รักสู่คู่บุญ

หัวข้อนี้อาจจะถูกใจคนอยากมีคู่รักและเจริญในธรรมไปด้วย แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะการเปลี่ยนจากคู่รักมาสู่คู่บุญนั้นจะต้องผ่านแบบทดสอบมากมาย

การเป็นคู่รักนั้นเกิดจากความหลงเสพหลงสุข เมื่อมีความรักก็อยากได้อยากเสพ จึงหาคนมาครองคู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางคนที่มีความพยายามที่จะเจริญในธรรม ดังนั้นจึงต้องขัดเกลากิเลสของตนและคู่เพื่อให้พัฒนาสู่ภพที่เอื้อให้เกิดความเจริญสูงสุด

การขัดเกลากิเลสนั้นมีตั้งแต่การไม่พากันไปสู่ทางชั่ว ไม่บำรุงบำเรอกิเลสให้กันและกัน และในส่วนที่ยากที่สุดคือไม่สมสู่กัน เป็นเรื่องยากที่จะบอกให้คนรักไม่สมสู่กันตั้งแต่วันแรกที่คบหากันไปจนตาย เพราะถ้าไม่ต้องการสมสู่กันแล้ว น้ำหนักในการมีคู่ครองก็แทบจะเบาลงไปในทันที ดังนั้นปราการแรกสู่ความเจริญคือให้เว้นขาดจากการสมสู่กับคู่ของตนตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน

เมื่อเป็นคู่กันแล้ว แต่งงานกันแล้ว แม้จะไม่สมสู่กันก็ยังไม่เรียกได้ว่าหลุดพ้นหรือสามารถเจริญในธรรมได้ดีนัก เขาทั้งคู่ต้องสลัดความหลงในรูปของกันและกัน ผู้ชายก็ไม่หลงในความเป็นหญิง ผู้หญิงก็ไม่หลงมัวเมาในรูปกายของตัวเองและไม่หลงยึดว่าต้องมีชายมาบำเรอตน

ปฏิบัติไปเรื่อยๆหลายภพหลายชาติ ผู้หญิงที่สามารถทำลายภาวะของความเป็นหญิงในตนลงได้ ตัดเหตุแห่งความเป็นหญิงได้ ก็จะเปลี่ยนมาเกิดเป็นเพศชายได้ สุดท้ายก็จะกลายเป็นเพศชายด้วยกันทั้งคู่ แต่สิ่งนั้นก็ยังไม่แน่ หากยังตัดความอยากในการสมสู่หรือความรักใคร่ออกไม่หมด ในชาติใดชาติหนึ่งก็อาจจะกลายเป็นชายรักชายก็ได้ ไปๆมาๆ กิเลสเพิ่มก็เวียนกลับสลับกันไปเป็นชายหญิงกันใหม่

ดังนั้นกว่าจะเปลี่ยนคู่รักมาเป็นคู่บุญได้แท้จริงนั้นยากมาก ต้องพรากจากการสมสู่ ต้องพรากจากความหลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นกรรมที่สะสมมาหลายภพหลายชาติ ใช่ว่าจะหลุดพ้นกันได้ง่ายๆ แม้คนหนึ่งไม่อยากสมสู่ แต่อีกคนอยากสมสู่ สุดท้ายก็ต้องมาคอยบำเรอกัน ซึ่งก็จะผูกติดกันไปแบบคู่รักเช่นนี้ไปอีกนานแสนนาน

ถ้าถามว่าคู่รักเช่นนี้ทำบุญได้ไหม ก็ตอบว่าได้ แต่ไม่สามารถทำได้ดีและเจริญได้เร็วเท่ากับคู่บุญที่เป็นเพื่อนกัน ถ้าเทียบกันแล้วก็เหมือนกับม้าที่วิ่งแข่งกับเต่า ดังนั้นหากจะเรียกคู่รักว่าคู่บุญนั้นก็คงจะไม่เข้าในความหมายของคู่บุญที่ยกไว้ในตอนต้น จึงสรุปว่าการยังอยู่ในภพของคู่รักนั้น จึงไม่เรียกว่าคู่บุญ เพราะยังมีเหตุในการทำบาปและความเสื่อมแห่งมิตรภาพอยู่ในความเป็นคู่รักนั้น

คู่บุญหรือคู่บาป

มาถึงคู่สุดท้าย คือคู่บาป คู่ที่พากันใช้ชีวิตไปตามสังคมและโลก ทำทานบ้าง เข้าวัดบ้าง สนองกิเลสกันบ้าง สมสู่กันบ้าง เรียกง่ายๆว่าใช้ชีวิตไปตามวิถีของคนทั่วไปนั่นเอง

การมีคู่แบบนี้ไม่เป็นบุญสักนิดเดียว เพราะบุญคือการชำระกิเลส แต่คู่รักที่ไม่ยินดีถือศีล ไม่ยินดีในการลดกิเลส ไม่ละเว้นการสมสู่ ไม่สลัดความหลงในรูปของกันและกัน แถมยังพากันบำเรอกามกันอย่างไม่เกรงกลัวพิษภัยของบาปจึงพาเป็นคู่ที่พากันไปแต่ทางเสื่อม หรือที่เรียกว่าคู่บาป

เขาเหล่านั้นก็จะเกิดมาเป็นตัวเวรตัวกรรมของกันและกัน คอยฉุดกันลงนรก หากคนใดคนหนึ่งทำกุศลมากพอจนจะได้ฟังธรรมที่พาพ้นทุกข์ อีกคนหนึ่งก็จะฉุดไปลงนรก ไม่ยอมให้อีกคนได้โผล่พ้นขึ้นมาจากใต้กองกิเลส เพราะกลัวว่าถ้าหากคู่ของตนทิ้งตนไปสนใจธรรมแล้วตนเองจะไม่เหลือใครให้เสพ แล้วก็ผลัดกันสกัดกั้นกันและกันอย่างนี้ไปอีกหลายภพหลายชาติ เป็นภาระของกันและกัน เป็นตัวถ่วงความเจริญของกันและกัน เป็นบาปของกันและกัน

ข้อสังเกตง่ายๆคือคู่บาป จะพาให้เราลดศีลของเราหรือลดความเจริญในธรรม คือธรรมที่มีอยู่แล้วก็เสื่อมลง เช่น เราเป็นคนที่กินมังสวิรัติอยู่แล้ว แต่พอไปมีคนรัก เขาไม่ยินดีที่จะถือศีลตามเรา ถึงแม้จะพยายามทำตามก็ทำได้ยากได้ลำบากจนเขารู้สึกกดดัน เราจึงรู้สึกเห็นใจเขาและเวียนกลับไปกินเนื้อสัตว์เป็นเพื่อนเขา

หรือผู้หญิงที่ตั้งใจจะไม่สมสู่จนกว่าจะแต่งงาน แต่เมื่อเจอกับคู่บาปที่มีถ้อยคำสนองกิเลส คำหวานที่ล่อลวงให้ยอมพรากพรหมจรรย์ไปให้เขาก่อนถึงวันที่คิดว่าสมควร ลักษณะเหล่านี้คือคู่ที่พาให้ตกต่ำลง ให้เสื่อมจากศีลธรรมที่เป็นมาตรฐานที่เคยตั้งไว้

หรือพอเราจะไปทำกุศล ไปทำทาน เข้าวัดปฏิบัติธรรม ไปเจอครูบาอาจารย์ หรือแม้แต่จะไปบวช คนรักของเราก็จะกั้นขวางไว้ไม่ให้เราได้เข้าใกล้ธรรม ไม่ให้เราได้สร้างกุศลหาเจริญในธรรมนานนัก หรือที่หนักๆเลยก็พวกที่จับพระสึกมาแต่งงานก็มีให้เห็นกันมาแล้ว นี่คือพลังของคู่บาปที่จะพยายามพาเรากลับไปนรก กลับไปในทางเสื่อมและจะต้องวนเวียนคอยลากกันและกันกลับไปนรกเพราะจะไม่มีใครยอมให้ใครทิ้งกันไปเจริญ จะต้องอยู่สนองความใคร่อยากด้วยกัน จะต้องมาบำเรอกิเลสของกันและกัน จะต้องเป็นตัวตนของกันและกัน ชาตินี้คนหนึ่งลากอีกคนลงนรก อีกชาติหนึ่งก็จะโดนแก้แค้นโดยการถูกลากลงนรก ผูกพันกันไปด้วยหนี้บาปหนี้กรรมกันอีกหลายกัปหลายกัลป์

. . . จะเห็นได้ว่าการเป็นคู่รักกันโดยไม่มีศีลธรรมนั้นจะพาให้หลงวนอยู่ในกองกิเลสยากจะหลุดออกมาได้ ส่วนคู่รักที่มีศีลมีธรรมนั้นก็กว่าจะทำลายความเป็นคู่รักให้เหลือแต่คู่บุญได้นั้นก็ยากเย็นแสนเข็ญ กามก็อยากเสพ กุศลก็อยากทำ กว่าจะถึงคู่บุญจริงๆนั้นก็ไกลแสนไกล

ดังนั้นเป็นเพื่อนกันตั้งแต่แรกจะดีกว่า อย่าไปหลงผูกกันให้ลำบากต้องมาแก้กันทีหลัง เพราะตอนแก้มันไม่ได้ง่ายเหมือนตอนผูก เหมือนกับตอนที่กิเลสเข้ามาแล้วมันไม่ได้ล้างออกไปกันได้ง่ายๆ เพราะถึงแม้จะมีวิธีทำลายกิเลสที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้วประกาศไว้อยู่ ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำใจให้เข้าถึงแก่นแท้แห่งความรู้เหล่านั้นได้ง่ายๆ










ด้วยเหตุนี้ เจ้านายชนชั้นสูงในสมัยล้านนาโบราณ จึงให้คุณค่าและความสำคัญ กับเรื่องมหาเสน่ห์เมตตาเป็นอย่างยิ่ง ครูบาอาจารย์ด้านไสยเวทย์ จะปรุงน้ำมัน สีผึ้ง ว่านยามหาเสน่ห์ สร้างเครื่องรางคง เข้ม ข่าม ขลัง ด้านมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม ไว้ให้ลูกหลาน ลูกศิษย์ ไว้บูชา เพื่อค้ำคูณพลังจิตกำลังใจหนุนดวงเสริมชะตา ให้ชีวิตดี ไร้อุปสรรค มีความสุข ทำสิ่งใดก็สำเร็จโดยง่าย เสริมราศีอำนาจวาสนา ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องครอบครัว ความรัก หน้าที่การงาน และความมั่งคั่งทางการเงิน 

ท่านว่า..ใครบูชาอิ่นถูกใช้อิ่นเป็น ผู้นั้นจะมีมหาอำนาจ มหาเสน่ห์เมตตามหานิยมในตนเองอย่างประมาณมิได้เลย ความรัก ความสุข เงินทอง ทรัพย์สิน ลาภยศ จะหลั่งไหลเข้ามามิขาด คิดสิ่งใด ปรารถนาสิ่งใด แม้ว่ายากเกินกำลัง สิ่งนั้นก็จะสำเร็จทุกประการแล !!!







"อิ่นเมตตาหลวง" เนื้อดินทราวดีโบราณ และดินอาถรรพ์จาก10สถานที่สวยงามคนนิยม ดิน10 ร้านอาหารขายดีมากคนนิยม มีมวลสารว่านมงคล ว่านยามหาเสน่ห์เมตตาครบสูตร แก้วโป่งข่ามรัตนชาติศักดิ์สิทธิ์บด 12 ชนิด กาฝาก9ชนิด กาฝากกาหลง-รักซ้อน-มะยม-มะรุม-มะขาม -ขนุน--ยอ-คูณ-พยูง (อานุภาพกาฝาก คือ ได้อะไรมาง่ายๆป้อนถึงปาก ชีวิตไม่ลำบาก มีมหาเสน่ห์ดึงดูดจิตผูกมัดใจผู้คน มีเมตตา มหานิยม มหาอำนาจ มั่งมีโชคลาภ ค้าขายดี แคล้วคลาด กันภัย*) และมวลสารอาถรรพ์ทนสิทธิ์อันเป็นความลับจากปั๊บสาตำราไสยเวทย์ล้านนาโบราณ
"อิ่นเมตตาหลวง" ปลุกเสก ปั้น เผา ร่ายเวทย์เรียกสูตรครบธาตุ "ดิน น้ำ ลม ไฟ " ปลุกคาถาแช่น้ำมันจันทร์หอมและว่านยามหาเสน่ห์ 108 อาบแสงจันทร์ 22 คืนเพ็ญ ร่ายมนต์เรียกสูตรปลุกอักขระด้วยวิชาเร้นลับจนเกิดวิญญานธาตุภายใน มีฤทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม  มหาอำนาจ ดลบันดาลได้พันช่องพันเรื่อง ตามแต่อธิษฐาน




หมั่นสวดบูชาคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น ค่ำเช้า ตั้งใจสวดกี่จบก็สวดตามนั้น (ยิ่งมากยิ่งดี) 
แต่จบสุดท้ายให้สวดแบบ"ปิดทวาร" แล้วจึงตั้งจิตตั้งใจอธิษฐาน



ปรารถนาสิ่งใดอย่างแรงกล้าให้เขียนกำกับไว้ แล้วใส่ไว้ในตัวอิ่น โดย..เขียนชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิดเจ้าของอิ่น และคำอธิษฐาน ใส่กระดาษเล็กๆ ม้วนบรรจุไว้ภายในตัวอิ่น ให้ขอทีละเรื่องทำทีละอย่าง ทุกครั้งที่สวดคาถา ให้สวดด้วยจิตอันประภัสสร สุข สว่าง สะอาด สงบ คิดถึงแต่ภาพที่ต้องการมี ต้องการได้ ต้องการเป็น พูดในถ้อยคำอันไพเราะอ่อนหวาน เป็นมงคล ไม่ด่าไม่สาปแช่งใคร

พกอิ่นติดตัวไว้เป็นสุดยอดเสน่ห์เมตตา คู่รักคู่สามีภรรยาให้สอดไว้ใต้เตียงนอนทุกค่ำคืนหลังสวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น จะรักใคร่เมตตาถวิลหากันมิเสื่อมมิคลายเลย ยามเข้าตาจนหน้าสิ่วหน้าขวานหาทองออกไม่ได้ นำอิ่นออกมาสวดคาถาแบบปิดทวารแล้วอธิษฐาน ด้วยจิตนิ่งแน่วแน่เชื่อมั่นศรัทธา ปาฎิหาริย์จะบังเกิด!!!

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
คุณต้องจำไว้ว่า
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬



ตัดกระดาษขนาดประมาณ 1.50 เซนติเมตร x 3 เซนติเมตร
เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สองคู่รัก หากไม่ทราบวันเดือนปีเกิดเขาก็ให้เขียนแค่ ชื่อ นามสกุล เท่าที่รู้ และคำอธิษฐาน แล้วม้วนกระดาษใส่เข้าไปภายในตัวอิ่น 

***ณ ขณะที่ตัดกระดาษ ลงมือเขียนอักษร จิตใจต้องสงบนิ่ง จิตต้องประภัสสร สุข สว่าง สงบ สดใส มีความเบิกบาน มีความสุขในแบบที่เราต้องการมี ต้องการเป็นต้องการได้ ระลึกให้เห็นภาพเรากับคนที่เรารักอย่างมีความสุขใจ เบิกบาน มีความรักความเมตตาความปรารถนาดี ส่งไปถึงเขา ส่งความรักความเมตตาไปกระทบจิตเขา นึกให้เห็นภาพเขา หากยังมีความกังวล หม่นหมอง เศร้าใจ อย่าเพิ่งเขียนเด็ดขาด รอให้จิตสงบๆก่อนค่อยเริ่ม  จงจำไว้ว่า อิ่นจะดลบันดาลในสิ่งที่คุณ ทำ พูด คิด อธิษฐาน และแสดงออก.. อิ่นจะแยกแยะไม่ได้ ว่าอันไหนคุณบ่น คุณประชด และอันไหนคือคุณอยากได้จริงๆ

❌❌หากขอเรื่องอื่นๆ เช่นขอเงิน ของาน ก็คิดให้เห็นภาพว่าเรามีเงินจำนวนมากๆ ได้งานที่รักพอใจแล้วจริงๆ 
❌❌หากขอเรื่องค้าขาย ก็ให้นึกภาพที่เราต้องการให้เกิดขึ้น คนหลั่งไหลมาซื้อของเรามากมาย เงินทองกองล้น สินค้าขายดีมาก
❌❌หากขอให้หมดหนี้สิน ก็ให้นึกภาพเรามีเงินทองมากมาย งานดี เงินดี ค้าขายดี ชีวิตดีมีความสุข
❌❌หากขอให้ผู้ใหญ่เมตตา คู่ค้าคู่ความเอ็นดูเมตตาให้ประโยชน์โชคลาภ ก็ให้นึกถึงหน้าเขาด้วยจิตใจที่ดีงาม มีความรัก ความกรุณาปราณีเมตตาต่อเขา
💥 สวดแบบปิดทวารก่อนอธิษฐานทุกครั้ง❗️❗️
❌❌อย่าลืมว่า "ต้องกระทำ" ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราอธิษฐานด้วย ทั้งการกระทำ คำพูด ความคิด ไม่ใช่อธิษฐานให้ขายดีแล้วนอนเกาพุงฝันหวานรอ ต้องทำงาน มีมานะ วิริยะ อุตสาหะ ต้องคิดพัฒนาร้าน คิดพัฒนาสินค้า เตรียมพร้อมรับลูกค้ามากมาย และเงินก้อนใหญ่ เพื่อให้ปาฎิหาริย์เกิดและคำอธิษฐานเป็นจริง

การเขียนคำอธิษฐาน ถ้าไม่ใช่เรื่องความรัก ก็เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของเจ้าของอิ่น และคำอธิษฐาน 1 เรื่องที่สำคัญยิ่ง ต้องการด่วน ลงไป


คาถาปลุกฤทธิ์ "อิ่น" คือ "คาถาสีผึ้งนางมัทรี" ท่องจำให้ได้ขึ้นใจห้ามอ่าน!! หมั่นสวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่นเช้า-ค่ำ กี่จบก็ได้สวดตามกำลังใจ มากจบยิ่งดี อิ่นคู่ใดเจ้าของหมั่นปลุกฤทธิ์ปลุกธาตุร่ายคาถา อิ่นคู่นั้นจะยิ่งศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์อิทธิคุณสูงยิ่งนักฯ. การหมั่นสวดคาถา คือการเชื่อมจิต เชื่อมบุญถึงครูบาอาจารย์ ขออำนาจบุญบารมีท่านมาเสริมกำลังบุญหนุนดวงชะตา ค้ำคูณเรา และเป็นการรวมจิตให้นิ่งมีกำลัง เพื่อทุกคำอธิษฐานจะสำเร็จ สัมฤทธิ์ผลเป็นจริงในเร็ววัน

"คาถาสีผึ้งนางมัทรี" สวดปลุกอิ่น ไม่ต้องว่า นะโมก่อน เพราะเนื้อคาถาเป็นเรื่องทางโลก ให้ว่าคาถาเลย เมื่อท่านบูชาอิ่น จงเข้าใจเคล็ดลับไสยเวทย์แห่งอิ่นด้วยว่า อิ่นคือความรัก ความเมตตา กรุณาปราณี อิ่นทำให้คนรักกัน เมื่ออยากได้ความรัก จงให้ความรักก่อน อิ่นดลบันดาลความมั่งคั่ง ลาภ ยศ เงินทอง ความสำเร็จ ท่านก็จงเป็นผู้หมั่นทำทาน รักษาศีลเป็นนิตย์ อิ่นมีฤทธิ์ทางมหาเสน่ห์เมตตา มหานิยม ท่านก็จงเป็นผู้มีจิตใจงามวาจาอ่อนหวาน พูดถ้อยคำมงคลอยู่เสมอ เพียงทำได้ดั่งนี้ "อิ่นเมตตาหลวง" ก็จะมีอำนาจดลบันดาลได้ดั่งแก้วสารพัดนึก 

"อิ่นเมตตาหลวง" คือจิตใจอันเมตตากรุณามีไมตรีจิต จิตเมตตากรุณาทำสิ่งใดย่อมสำเร็จ เป็นมหานิยม อุดมโชคลาภ "อิ่น"แทนกำเนิดทุกสิ่ง สัตว์ ภูติ เทวดา มาร พรหมล้วนเคยเกิดในโลก คนใช้อิ่นในทางชั่ว ย่อมมัวหมองบาปกรรมย่อมตามสนอง บาปกรรมจองเวรตามไปทุกชาติภพ " อิ่น " เป็นตัวช่วยในเรื่องโลกๆ ที่ยังต้องกินต้องใช้ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม ไม่ใช่เอาไปผิดศีล ทำร้ายทำลายกดข่มผู้อื่น ทุกศาสตร์ย่อมมีความหมาย ทุกความหมายย่อมพ้นความงมงายด้วยปัญญา คนดีจึงใช้ของดี ของดีย่อมทำลายใจอกุศล คำสาปวิชาจึงมีไว้ ผู้ทำกรรมเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น

อิ่นหรือรูปชายหญิงกอดกัน แสดงการกำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนาม แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า #ภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้ให้ตื่นจากความหลงความโลภความโกรธ จิตจึงเป็นอิสระ จากเครื่องผูกมัดกายใจ ลด ละ อัตตา เชื่อมโยงจิตวิญญานความรัก ความศรัทธา ด้วยความรัก ความเมตตา ความศรัทธา และความเคารพซึ่งกันและกัน ให้จิตตื่นรื่นเริงยินดีในการให้ มีความรัก ความเมตตา การให้อภัย อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน อันเป็นสุดยอดแห่งเสน่ห์ เมตตามหานิยม ที่มีอำนาจมหาศาลในการดลบันดาลทุกๆ สิ่งให้สมใจปรารถนา


อิ่นมหาเสน่ห์อันดับหนึ่งเบญจภาคีเครื่องรางล้านนานี้ เล่าขานกันว่า..อิ่นเป็นเครื่องรางชั้นสูง บ้านใดมีอิ่นไว้ในบ้านๆนั้นก็จะมีแต่ความรักไม่มีเรื่องให้ทะเลาะหรือผิดใจกัน เป็นเครื่องรางที่ควรมีติดกาย ติดบ้านเรือน ติดห้องนอนห้องหอ ชนชั้นสูง เจ้าขุนมูลนาย จะหวงแหนกันมาก จะมอบอิ่นอันศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่ไว้ให้ลูกหลานในวันแต่งงาน และเป็นของขวัญสูงค่าที่คนรักจะมอบให้แก่กันและกัน 
อิ่นเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก แรงมากในด้านมหานิยมมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เป็นที่หนึ่งด้านมหาเสน่ห์ มหานิยม ช่วยในเรื่องการเจรจาค้าขาย เข้าหาเจ้านาย เป็นที่รักของคนและเทวดา รวมไปถึง แคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจดลบันดาลพันช่องพันประการ กันภูตผีปีศาจ แม้แต่เทวดาอยู่บนชั้นฟ้า ยังต้องลงมาปกปักรักษาดูแลผู้ที่มีอิ่นไว้ครอบครอง


อิ่นเมตตาหลวงนี้ มีฤทธิ์ทางใจ ออกฤทธิ์ทางวาจาการเจรจา ทำให้คนทั้งหลายเมตตารักใคร่ บังเกิดเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รัก จากไปก็อาลัยคิดถึง เจรจาสิ่งใดก็น่าเชื่อถือ เข้ามาอุดหนุนแล้วก็อยากเวียนมาอีก ทั้งหมดนี้เป็นไปด้วยแรงเมตตา โชคลาภหลั่งไหล หนุนดวงเสริมวาสนาบารมี ก่อนจะใช้ .. ให้ตั้งจิตแน่วแน่ สวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น .. แล้วอธิษฐานใช้ตามความปรารถนาใช้ได้ครบทุกๆ ด้าน เพียงแต่ว่าเจตนาของผู้ใช้ จะประสงค์สิ่งใด สำคัญ!! อยู่ที่จิต ขอให้จิตนิ่งแน่วแน่ ระลึกถึงครูบาอาจารย์ อยู่ในศีลธรรมคุณงามความดี ก็จะสำเร็จได้ดั่งอัศจรรย์ !!!




ผู้ใดมีอิ่นไว้ติดตัวย่อมมีอำนาจเหนือจิตใจของเพศตรงข้าม มีอำนาจในทางดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้เพศตรงข้ามคิดถึงตัวเราเสมอๆ เกิดความรักความต้องการที่จะใกล้ชิด อิ่นเมตตาหลวงเป็นเครื่องรางที่ดลบันดาลความรัก ความผูกพัน หากใครที่อยากมีความรักและอยากให้เขาก็รักเราเช่นกันก็ให้บูชาติดกายไว้หมั่นสวดปลุกฤทธิ์อิ่น ท่านว่าจะได้สมดั่งใจแลฯ

คนที่มีคู่อยู่แล้ว คู่เหินห่างไม่ค่อยใยดี ท่านว่าให้นำอิ่นเมตตาหลวง พกติดตัวทำการอธิษฐานต่ออิ่น ไม่ช้าไม่นานคู่รักจะคืนดีด้วยอย่างน่าอัศจรรย์ คู่สามีภรรยาที่แตกแยกกัน สามีนอกใจภรรยา ภรรยานอกใจสามี จะกลับมารักใคร่กลมเกลียวกัน ส่วนคู่ที่รักกันอยู่แล้วก็จะรักยิ่งๆ ขึ้นไป ผูกจิตให้รักผูกใจให้คิดถึงคะนึงหามิรู้ลืม มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น ให้บังเกิดความเมตตารักใคร่















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น