วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

คำอธิษฐานในเรื่องคู่ครอง ให้เจอบุพเพสันนิวาส



เรื่องของคู่ครอง ครอบครัว เป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องในชีวิตซึ่งสำคัญมาก ควรต้องเริ่มตั้งตอนที่มีคู่รักเลย  

พระพุทธองค์ ทรงตรัสไว้ในเรื่องของความรักและบุพเพสันนิวาส ไว้ดังนี้ (ธัมมปทัฏฐกถาภาคที่ ๒ สามาวดี)ไว้ว่า “ปุพฺเพ สนฺนิวาเสน..ปจฺจุปนฺนหิเตน วา , เอวนฺตํ ชายเต เปมํ..อุปลํว ยโถ ทเก ฯ ” แปลโดยสรุปได้ว่า


ความรักและบุพเพสันนิวาสนั้น เกิดขึ้นด้วยเหตุ ๒ ประการนี้เท่านั้นคือ

๑. ด้วยเคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน

๒. ด้วยช่วยเหลือเกื้อกูลกันในปัจจุบัน



โดยความเข้าใจของคนทั่วไปนั้น มักจะตีความหมายของ บุพเพสันนิวาสว่า การเกิดมาเพื่อคู่กัน เป็นคู่ที่เคยได้อยู่ร่วมกันในชาติปางก่อน รวมไปถึงประเภทคู่รักแบบไฟแลบแปลบๆ ที่แค่มาพบประสบหน้า มาเจอกันก็เกิดความรักขึ้นมาทันที


บุพเพสันนิวาส ถูกเข้าใจผิดกันไปว่า เป็นแค่เรื่องของคู่เท่านั้น เรื่องของคนสองคนในฐานะสามีภรรยาเท่านั้นแต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะในเชิงลึกนั้น แท้ที่จริงแล้ว ความหมายของบุพเพสันนิวาสนี้ซับซ้อนมากกว่านั้นเยอะ เพราะยังกินความหมายเข้าไปถึง  การที่คนทั้งคู่อาจจะได้อยู่ร่วมอันในฐานะอื่นก็ได้ เช่น พี่กับน้อง พ่อกับลูก แม่กับลูก เพื่อนกับเพื่อน ศิษย์กับอาจารย์ บ่าวกับเจ้านาย หรือในบางคู่ถึงขึ้นเคยเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันเลยก็มี เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกัน หรือคนที่เคยทำกรรมร่วมกันมาแต่อดีตชาติ


คำว่า “กรรมร่วมกันมาแต่อดีตชาติ” เป็นคำที่หมายถึง คนสองคน หรือมากกว่านั้น เคยทำอะไร ร่วมกันมา จะเป็นทางดีก็ได้ ทางไม่ดีก็ได้ เช่นเคยทำบุญร่วมกันมา เคยร่วมปล้นฆ่าคนมาด้วย ดังนั้นเรื่องของบุพเพสันนิวาสจึงไม่ใช่และไม่จำเป็นต้องเป็นคู่ครองกันเสมอไป เพราะกรรมร่วมกันนั้นมีทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี


อีกเรื่องหนึ่งมีหลายคนในยุคปัจจุบันนี้เป็นจำนวนมาก เชื่อว่าเรื่องของคนที่จะมารักกันได้นั้นเป็นเพราะพรหมลิขิต ชักนำ พระพรหมท่านเป็นคนลิขิตบังคับพาให้มาเจอกัน รักกัน จนมาจับคู่อยู่เป็นคู่ตุนาหงัน  ในเรื่องพรหมลิขิตนี้อยากจะแสดงความคิดส่วนตัวว่า ในเรื่องพรหมลิขิต ฟ้าลิขิตนี้เป็นการคิดที่น่าจะผิดแนว ผิดทิศ เลี้ยวลงคลองไปเลย


ในคติพุทธศาสนา พระพรหม นั้นถูกจัดอันดับให้ท่านนั้นเป็นชาวสวรรค์ชั้นสูงขั้นหนึ่งที่สูงกว่าเทวดาทั่วไป เรียกกันว่า “พรหม” พระพรหมท่านไม่มีเพศ แต่ก็ยังอยู่ในกามาวจรภพ คือ มีการวนเวียน ว่าย ตาย เกิด อยู่ในสวรรค์ที่เรียกว่า ชั้นพรหม และกว่าจะถึงขั้นนี้นั้นยากมาก


พระพรหมต้องเป็นผู้ปฎิบัติที่เคร่งครัด ประพฤติดี ประพฤติชอบ  ฌานของท่านสูง และมีบุญฤทธิ์มากในบางครั้งท่านอาจจะสงสาร มีเมตตา ช่วยดลใจจิตของคนสองคนเข้ามาหากัน หรือเพื่อช่วยเป็นแรงส่งให้สร้างบุญกุศลได้หรือมาร่วมโมทนาคุณความดี บุญกุศลที่มนุษย์ได้ทำขึ้น แต่ไม่ใช่กงการอะไรของท่าน ที่ท่านจะไปใช้กำลังอำนาจจิตไปบีบบังคับ ให้ต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างโน่น จับคู่ตามใจท่านนั้นคงเป็นไปไม่ได้ !


แต่ที่เป็นตัวการสำคัญที่จะลิขิตคนทุกคนได้นั้น ก็คือ กรรมเป็นผู้ลิขิต


กรรมย่อมจำแนกสัตว์โลกให้แตกต่างกันคือ ทั้งเลวและประณีต ขอให้เชื่อเถิดว่า ชีวิตของเราทุกคนนั้น ถูกควบคุมไว้ด้วยกฎแห่งกรรม ไม่มีผู้ใดมาควบคุมชีวิตของเราได้


กรรมจะเป็นผู้กำหนดเอง และเรื่องของความรักและเนื้อคู่ในแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นมานั้นก็เป็นเรื่องของกรรมลิขิตล้วนๆ ทั้งจากการที่เคยอยู่ร่วมกันมา และในชาติปัจจุบันได้ใกล้ชิด เกื้อกูลกันมากกว่า


ทุกคนเรานั้นเคยมีคู่หลายคนมากมายมหาศาล ด้วยเหตุที่เรานั้นเวียน ว่าย ตาย เกิดมาหลายภพชาติได้ทำบุญและกรรมร่วมกันมาหลายคนในหลายภพ คนที่ต้องมาเจอ มาอยู่ด้วยกันในชาตินี้เป็นหนึ่งในอดีตคู่ของเรา ส่วนเนื้อคู่คนอื่นๆ ก็อาจจะพบกันในชาติต่อไป หรือไม่พบเลยก็ได้


หรือในบางคน คนที่เราทำบุญด้วย(เพื่ออยากมาเจอกันอีก) ดันมาเกิดพร้อมกันกับเราในชาตินี้หลายคนเสียนี่  เลยตกลงว่าเราก็เจอกับคนเหล่านั้นกันหมดเลย ทุกคนๆ แต่ในความจริงแล้วเราก็จะเลือกแต่งงานกับคนคนเดียวเท่านั้นที่เป็นวาระของกรรมนั้นแสดงผลในชาตินี้ ทำให้ถูกใจต้องใจกันทั้งบุญและบาปที่เป็นกรรมร่วมกันมา


คู่ชีวิตคือ คนที่เราต้องแต่งงาน อยู่กินกันตลอดชาตินี้ ถ้าบุญมากหน่อย ก็เรียกว่า คู่บุญ ถ้าบาปมากกว่าบุญ ก็ เรียกว่า คู่เวร คู่กรรม แต่ถ้าบุญและบาปพอๆ กัน มีทั้งสุขทั้งทุกข์ เราเรียกว่า คู่ทุกข์คู่ยาก

เป็นเรื่องผลของกรรมที่ได้ร่วมกระทำกันมา


เรานั้นระลึกอดีตชาติไม่ได้ และไม่น่าจะจำได้เนื้อคู่เราได้ทุกคน เพราะเหตุการณ์ในแต่ละภพชาติมันทับถมมานานนับล้านๆ ชาติ เหมือนเราเอากระดาษเปล่ามาแผ่นหนึ่ง หยิบปากกาหมึกสีน้ำเงินมาเริ่มเขียนลงไปทุกวันๆ ทับกันลงไป สัก 1 เดือนก็พอ เราย้อนกลับไปดูได้หรือไม่ว่า ในวันแรกๆ เราเขียนอะไรลงไปในกระดาษใบนั้น เราอ่านมันออกหรือไม่ ซึ่งให้เก่งสุดๆ ก็ไม่มีทางที่จะอ่านออกเป็นใจความได้


หลายคนถึงแม้จะเคยอยู่ร่วมชาติกันมาแต่ปางก่อนก็จริง แต่ไม่ได้เป็นครองคู่กันในชาตินี้ อาจจะต้องมีเหตุที่มาจากวิบากกรรมมาตัดรอนและเป็นกรรมบีบคั้น มีอันต้องแคล้วคลาดกันได้


เนื้อคู่ นั้นหมายถึง คนที่จะมาเกิดมาเป็นสามีภรรยากันในชาติปัจจุบันและ ต้องพึงพอใจในกามราคะ ถึงจะอยู่ร่วมกันได้ อาจจะเป็นชายและหญิงที่เคยอยู่ร่วมกันมาในหลายภพ หลายชาติที่ผ่านมา หรือจะเป็นชายกับชาย เป็นหญิงกับหญิง หรือเป็นกลุ่ม คนที่อยู่ในบุพเพสันนิวาสก็ได้ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งเพื่อนกับเพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง ศิษย์กับครู นายกับบ่าว ที่มีเป็นลำดับจำนวนมากมายมหาศาลในภพชาติที่ผ่านมา


ขอย้ำไว้อีกครั้งว่า แต่คนสองคนที่มาเป็นผัวเมียกันได้ในชาตินี้หรือเป็นเนื้อคู่กันนั้น ต้องมีเรื่องของกามราคะเป็น ตัวเหนี่ยวนำเข้ามาหากัน  และกรรมได้ลิขิตเท่านั้น


เพราะที่กล่าวมาแล้วว่า กลุ่มคนในบุพเพสันนิวาสที่มีหลายประเภทนั้น ถ้าไม่มีกามราคะเป็นตัวเหนี่ยวนำก็จะไม่มีทางได้มาเป็นสามีภรรยากันหรือเนื้อคู่แน่นอน และมีหลายคนที่ได้สละความเป็นลำดับเนื้อคู่สู่โลกแห่งธรรมะ ก็สามารถใช้บุญนั้นหยุดวิบากกรรมที่จะนำมาสู่การเป็นผัวเมียกันได้ ยิ่งในระดับของผู้ปฎิบัติธรรมชั้นสูง คือ ตั้งแต่พระอนาคามีขึ้นไป ท่านตัดสิ้นแล้วในกามราคะ และไม่ปรารถนามาเกิดอีกแล้ว ท่านก็สละสิทธิ์ ไม่มีการที่จะมาต่อคิวลำดับใครอีกแล้ว พวกเนื้อคู่เก่าก่อนที่ท่านจะบรรลุก็หลุดไป


และที่บอกว่าอาจจะเป็นชายกับชาย หรือหญิงกับหญิงก็ได้นั้น หมายถึงในภพก่อน อาจจะเคยเป็นคู่ที่รักกันมากๆ  มีความปรารถนาที่จะอยู่ใกล้ชิดกันกัน ทำงานร่วมกัน ทำบุญกุศลร่วมกัน  แล้วด้วยจิตที่เคยผูกพันอธิษฐานร่วมกันมา เมื่อมาเกิดชาติใหม่ด้วยกรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกันจึงอาจจะเกิดมาในเพศเดียวกันและมีเรื่องของกามราคะที่เป็นกรรมลิขิตด้วยแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ชาตินี้จึงต้องมาเป็นคู่กันถึงจะคนละเพศ


แล้วเคยได้ยินไหมที่บางคู่บอกว่า อยู่กันเหมือนเป็นเพื่อน บางคนชอบบอกว่าสามีนั้นดูแลเหมือนกับพ่อ เพราะอาจจะเคยเป็นเพื่อน เป็นพ่อมาก่อนก็ได้ เป็นไปได้ทั้งนั้นเป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาสของจริงนั่นเอง


ในข้อที่บอกว่า ลำดับของเนื้อคู่ทำไมถึงต้องบอกว่ามากมายมหาศาล ก็เพราะเราทุกคนนั้นเกิดมาแล้วเป็นล้านๆ ชาติ ยังไม่นับรวมถึงที่เคยเป็นสัตว์เดรัจฉานต่างๆ  เอาแค่ว่าชาติที่มีบุญเกิดเป็นมนุษย์ชาติเดียวนั้นเป็นคู่ผัวตัวเมียเดียว ไม่มีอนุภรรยาหรือมีอนุสามีมาเป็นเนื้อคู่ลำดับต่อไปเพิ่มขึ้นมาอีก


คำว่าเนื้อคู่แท้นั้น ในนิยามความหมายก็น่าจะเป็นคู่ที่ทำให้ชีวิตของทั้งสองคนนั้นมีความสุข ความเจริญ ไม่มีการขัดแย้งกันรุนแรงทั้งใน 4 ด้าน รวมถึงมีความเสมอกันหรือใกล้เคียงกันทั้งศรัทธา ศีล  จาคะ ปัญญา และร่วมกันทำกรรมดี ละเว้นความชั่ว และช่วยกันประกอบอาชีพสุจริตหาทรัพย์ รักษาทรัพย์และใช้ทรัพย์นั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตนและคนอื่น (จาคะ หมายถึงการสละสิ่งของและความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น และหมายรวมถึงการสละละทิ้งกิเลส ละความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ ความใจแคบ และการเลิกละนิสัย ตลอดถึงความประพฤติที่ไม่ดี ที่ทำให้เกิดความเสียหาย ก่อความบาดหมางทะเลาะเบาะแว้ง เป็นต้น


มีการดำรงชีวิตอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดี มีเกียรติที่พึงมี รู้จักเคารพคนที่ควรเคารพ รู้จักกาล รู้จักรับผิดชอบในการงาน ไม่เกียจคร้าน อันนี้พูดถึงหลักของการเป็นคนดีของคนสองคนที่ต้องช่วยกันประคับประคอง



แล้วเราจะเจอเนื้อคู่ที่ดีได้อย่างไรในชาตินี้ การอธิษฐานช่วยได้แน่นอน



สำหรับในการไปการอธิษฐานนั้นขอแยกเป็นสองประเด็นเพื่อให้เข้าใจกันอย่างเด่นชัด



ประเด็นที่หนึ่ง แรงปรารถนาและแรงอธิษฐานในชาติก่อน ในชาตินี้ถ้าเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เราไปอธิษฐานอะไรไว้มั่ง หลายคนมาชาตินี้ถึงยังไม่ได้เจอเนื้อคู่แท้เลย เราอาจจะอธิษฐานหนักข้อไปหน่อยแบบทุกชาติไม่ต้องเจอเนื้อคู่ หรือมีข้อแม้พิเศษอะไรก็ตาม ชาตินี้จึงมีแต่วูบๆ วาบๆ คบหาดูใจกัน ได้พักเดียวก็ต้องแยกจากกัน แต่เรารู้สึกลึกๆ ว่าเหมือนเรารอคอยใครอยู่สักคน ทำไมยังไม่มาตามนัดเสียที  บางคนถึงขั้นมีนิมิตเห็นหน้าเห็นตากันเลยถ้าจิตนั้นมีฤทธิ์พอ



หรือเพราะเหตุอะไรก็ตามทำให้ต้องอยู่คนเดียว อย่างที่บอกไปแล้วว่า อาจจะเป็นที่เนื้อคู่ลำดับต้นยังไม่ได้มาเกิด หรืออาจจะมีวิบากกรรมมาขวางเอาไว้ ต้องรอให้หมดวิบากกรรมเสียก่อน จึงจะพบกัน ถ้าเราไม่มั่นใจในเรื่องนี้ และยังอยากที่จะมีคู่อยู่ ก็ต้องไปอธิษฐานแก้ขออำนาจแห่งบุญที่เราทำตั้งแต่ในอดีตชาติ และบุญใหม่ที่เราทำทั้งหมดได้ชาตินี้ ขอแรงบุญกุศลช่วยยกเลิกเนื้อคู่เก่าที่ในวันนี้เรายังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร



และขออานิสงส์ผลบุญที่เราทำมาทั้งหมด จงเป็นพลวปัจจัยให้นำพาคู่ในลำดับต่อไปมาพบเจอะเจอกัน ได้ครองคู่กัน และที่สำคัญควรอธิษฐานกำหนดสเปคที่เราอยากได้ด้วย แต่ขอแนะนำสักนิดว่า อย่าให้มันเกินไปนัก เอาแต่พอดีเดินสายกลางไว้ดีที่สุดและปลอดภัยกว่าเยอะ



ประเด็นที่สอง เรื่องของกรรมในปัจจุบัน เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่จิตใจของเราเองด้วย เมื่อภายในดูใจได้คงที่แล้ว ภายนอกก็สำคัญ ทั้งกิริยา วาจา รูปร่างหน้าตา ก็หมั่นดูแลปรับปรุงให้ดูดี อย่าปล่อยตัวเองจนโทรม ขี้เกียจไม่ทำงานทำการ แล้วมาบอกว่าไม่เห็นจะเจอเนื้อคู่สักที เพราะกรรมปัจจุบันที่เราทำไม่ดีเป็นไปได้เหมือนกัน เพราะเหตุในกรรมปัจจุบันเราไม่ทำให้ดีขึ้นเลย ปล่อยตัวขนาดนั้น ใครเขาจะมาอยู่กับเราได้ ดังนั้นอย่าไปโทษวิบากกรรมเก่าแต่ฝ่ายเดียว ต้องทำกรรมในปัจจุบันให้ดีด้วย



เรายังสามารถเลือกที่จะได้พบและอยู่เป็นคู่ครองกับเนื้อคู่ของเราได้ในอนาคต ด้วยแรงปรารถนา และโดยการอธิษฐานขอให้พบเนื้อคู่แท้ การอธิษฐานจะได้ผลเร็วขึ้นอยู่กับจิตที่แรงกล้า แข็งแกร่ง ต้องมาจากบุญบารมี ที่เกิดขึ้นได้จากการทาน ศีล ภาวนาเท่านั้น จึงจะสามารถทะลุทะลวงวิบากกรรมบางอย่างให้บรรเทาพอที่หลุดลอดไปหากรรมดี พบเนื้อคู่แท้ได้



การจะทำให้จิตกล้าแข็งได้ ต้องมีการฝึกปฎิบัติ เหมือนกับเรายกดัมเบลล์เพื่อให้กล้ามขึ้นนั่นแหละ จิตก็เหมือนกันต้องมีการฝึกซึ่งมาจากการทำสมาธิที่ถูกต้องด้วย ถ้าจิตนั้นไม่มีแรงพอ จิตก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เหมือนคนที่ตกรถประจำทางอยู่ที่ป้ายรถเมล์  เพราะไม่มีค่าโดยสารจะเดินทางไปต่อ ถ้าเรามีเงินพอหรือจิตเราถึงเราก็ไปได้แน่นอน  หรือในบางครั้งเราอาจจะต้องไปขอความช่วยเหลือของคนอื่น หรือที่เรียกว่า พึ่งบุญบารมีคนอื่นเขา ก็จะไปถึงได้



ในเรื่องพึ่งบุญและเชื่อมบุญ นั้นได้กล่าวไว้โดยละเอียดแล้ว ในหนังสือชื่อ ปาฎิหาริย์เชื่อมบุญ หาดูได้ในชุดนี้ จะขอกล่าวเพียงย่อๆ เท่านั้น ว่าถ้าตัวเรานั้นมีบุญบารมีไม่พอที่จะกระทำเรื่องต่างๆ นั้น ควรจะไปพึ่งบุญคนอื่น ที่เป็นคนที่มีบุญร่วมกันกับเรา ถ้ามีบุญเก่าน้อย ก็สร้างบุญใหม่มาเชื่อมบุญระหว่างท่านผู้มีบุญบารมีมากกว่าเรากับตัวเราเสียก่อน ให้เป็นบุญที่ใหญ่ขึ้นและขอให้ท่านช่วยเมตตาสงเคราะห์เรื่องราวต่างๆ ให้



ในเรื่องของเนื้อคู่ จึงมีการช่วยจับคู่ให้ ทั้งเป็นแม่สื่อแม่ชัก หรือผู้ใหญ่ช่วยเหลือเปิดทางให้เจอกัน หรือถึงขั้นไปสู่ขอต่อพ่อแม่ให้ด้วย พ่อแม่ผ้หญิงเขาเกรงใจในบุญบารมีของท่านผู้ใหญ่ของเรา เขาก็ยกให้ แม้จะไม่ชอบเราเสียเท่าไร



เมื่อเป็นคู่ครองแล้ว อธิษฐานมาอย่างดีแล้วทำไมถึงต้องเลิกกัน



เรื่องนี้นั้นเกิดจากหลายสาเหตุเช่นกัน เพราะคนที่เราคิดไปเองว่าใช่เนื้อคู่ ของเรานั้น มันอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่แท้ก็ได้ อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรเขากลับชาติมาเกิด มาพบและอยู่กับเราก็เพราะกรรมลิขิต แต่เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชดใช้กรรมแก่กันเป็นที่พอใจแล้ว ก็จะแยกย้ายกันไป เป็นประเภทคู่เวรคู่กรรมกัน



ยังมีอีกหลายสาเหตุมากมาย รวมถึงไปได้คนที่มีปัญญา มีศีลไม่เสมอกันด้วยหลายคู่ต้องเลิกกันเพราะศีลไม่เสมอกัน มันมีช่องว่างห่างกันมากๆ เมื่อมีเหตุปัจจัยอะไรอื่นขึ้นมาอีกนิดเดียว มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายจนต้องแยกทางกันไป และคนทั้งคู่ไม่ได้ทำบุญใหม่ร่วมกันเลย ไม่เคยชวนกันไปทำกรรมดีเลย  มันจึงไม่มีสายใยหรือแรงดึงดูดที่จะทำให้มารักกัน มาร่วมในบุญกันอีกได้ ก็ต้องแยกย้ายกันไปเมื่อหมดวาระของกรรม



ทางที่ดีที่สุด ถ้าเรามีความปรารถนาจะอยู่ร่วมกับเขาอีก ก็พยายามทำกรรมดีให้มากเข้าไว้ ยิ่งทำร่วมกันมากขึ้นเท่าไร ก็จะมีสิทธิ์ที่จะเจอกันมากขึ้น และแรงแห่งการอธิษฐานอาจจะช่วยได้ ถ้ายังมีบุญร่วมกันพอ หมั่นทำบุญร่วมกัน ทั้งงานที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น งานเผยแพร่หนังสือธรรมทาน งานบุญใหญ่ๆ ที่วัดวาอารามชอบจัดกัน และที่สำคัญต้องรู้จักที่จะดูแลเกื้อกูลกันอย่างจริงใจ เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน อดทน อดกลั้น อย่าเอาแต่ใจแต่ตัวเองมากเกินไป



คำถอนอธิษฐานและอธิษฐานพบคู่แท้

ข้าพเจ้า……………………………………………ขออาราธนา ขอพระเมตตาบารมีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม พระอรหันต์ พระมหาโพธิสัตว์ พระโพฺธิสัตว์ ทุก ๆ พระองค์ พระมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์ พระอริยสงฆ์ อริยบุคคล ครูบาอาจารย์สืบ ๆ กันมา มีหลวงปู่ทวด หลวงปู่แสง ครูบาศรีวิชัยเจ้า  หลวงปาน วัดบางนมโค หลวงปู่ดู่ และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง เป็นที่สุด

ด้วยข้าพเจ้าเคยประมาทพลาดพลั้ง เป็นผู้มีมิจฉาทิฐิด้วยความไม่รู้ ข้าพเจ้าขอถอนสาปแช่ง คำอธิษฐาน และพันธนาการทั้งปวง ขอให้ข้าพเจ้าหลุดพ้นจากพันธนาการทั้งปวง หากแม้นข้าพเจ้าเคยร่วมอธิษฐานครองคู่กับผู้ใดมาก็ตาม (หรือในเรื่องใดก็ตาม ให้ระบุลงไปถ้าไม่รู้จริงๆ แต่มีอุปสรรคขัดขวางอยู่ตลอดให้ กล่าวว่า ทุกการอธิษฐานที่เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อม เกิดบาปและอุปสรรคทั้งปวง )

ข้าพเจ้าขอยกเลิกคำอธิษฐาน เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน และอโหสิกรรมให้แก่บุคคลเหล่านั้น เพื่อให้มีดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผลพระนิพพานในที่สุด

ด้วยผลบุญแห่งการให้อภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ ขอได้พบคู่แท้ที่มากบุญบารมีร่วมกัน ให้ได้พบแต่กัลยาณมิตร ให้ห่างจากคนพาลทั้งหลาย ขอให้ได้สมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง ขอให้เป็นผู้มีสติรู้ได้ในทุกขณะจิต ขอให้เป็นผู้มีกำลังใจเข้มแข็ง กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำประกอบกิจการงานใดที่ถูกศีล ถูกธรรม มีผู้ช่วยเหลือให้เป็นผลสำเร็จทุกประการ ความไม่มี ไม่พอ และอุปสรรคใดๆ ก็อย่าได้บังเกิดขึ้น

ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำมาอย่างดีแล้วตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าจงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ๆ ทุกประการเทอญ…


เมื่อเสร็จการกล่าวอธิษฐานแล้ว ขอให้ทำสมาธิต่ออีก ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเสร็จแล้วให้แผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวรไม่ว่าจะเป็นสรรพสัตว์ใด มนุษย์หรืออมนุษย์ ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี เมื่อแผ่เมตตาเสร็จสิ้นแล้วเป็นอันจบการถอนอธิษฐานตามแบบฉบับของครูบาอาจารย์ที่สืบทอดมาแต่ครั้งโบราณ

( สำหรับเรื่องปลดกรรมลดกรรมที่มาจากความรัก คู่ครองให้ไปดูรายละเอียด วิธีทั้งหมดในเล่มปาฏิหาริย์วิชาศักดิ์สิทธิ์ ๒   ปาฏิหาริย์เชื่อมบุญ ปลดกรรม ชีวิตดีฉับพลัน)


สำหรับคำอธิษฐานทั่วๆ ไปในเรื่องการงาน การเงิน สุขภาพหรือเรื่องอื่นๆ นั้นให้เราประยุกต์เอาจากตัวอย่างคำอธิษฐานที่บอกไปแล้ว ในการอธิษฐานทุกครั้งถ้าเป็นไปได้พยายามอธิษฐานเจาะจงจะดีกว่าอธิษฐานเหมารวม ควรตั้งจิตอธิษฐานซ้ำๆ ให้เป็นประจำเพราะจะปักย้ำลงไปในจิตแบบไม่มีหลุด ต้องทำเหตุลงมือทำสิ่งที่ต้องการนั้นให้ตรงกับคำอธิษฐาน มีบุญ มีปัญญาประกอบเราจะได้ตามที่เราปรารถนาทุกประการ


จากหนังสือเรื่อง ปาฏิหาริย์วิชาศักดิ์สิทธิ์ ๔ ห้อยพระ บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรเป็น ได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา     โดย ธ.ธรรมรักษ์




" อิ่น " คือเครื่องรางแห่งความรัก ความเมตตา กรุณาปราณี เป็นวิชามหาเสน่ห์ชั้นสูงของคนล้านนาโบราณ รูปคนกอดกัน คือการหลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียว ถ่ายทอดความรัก ความเมตตากรุณา จากหัวใจไหลรินสู่กันและกัน ยอมรับกันและกัน ส่งพลัง กำลังใจความห่วงหาอาทร ความอ่อนโยน การให้อภัย เติมเต็มจิตวิญญาน เกิดเป็นความสมบูรณ์แห่งพลังชีวิต นำไปสู่การก่อกำเนิดทุกสรรพสิ่ง เกิดความสมดุลย์ สมบูรณ์พูนสุข ความมีชีวิตชีวา ความสำเร็จ ความมั่งคั่งล้นเหลือ ความสมปรารถนานานัปประการของชีวิต

อิ่นเมตตาหลวง เบญจภาคีเครื่องรางมหาเสน่ห์อันดับหนึ่งแห่งล้านนา เล่าขานกันว่า...เป็นเครื่องรางเสน่ห์ชั้นสูง บ้านใดมีอิ่นไว้ในบ้านๆนั้นก็จะมีแต่ความรักใคร่เมตตาปรองดองกัน ไม่มีเรื่องให้ทะเลาะผิดใจกัน เป็นเครื่องรางที่ต้องมีติดกาย ติดบ้านเรือน ติดห้องนอนห้องหอ ชนชั้นสูง เจ้าขุนมูลนาย จะหวงแหนกันมาก จะมอบอิ่นอันศักดิ์สิทธิ์สูงค่าของพ่อแม่ไว้ให้ลูกหลานในวันแต่งงาน และเป็นของขวัญล้ำค่าที่คนรักจะมอบให้แก่กัน

 อิ่นเมตตาหลวงนี้ อิทธิคุณแรงมาก เป็นที่หนึ่งในด้านมหานิยม มหาเสน่ห์ ช่วยในเรื่องการเจรจาค้าขาย เข้าหาเจ้านาย เป็นมหาอำนาจแห่งเสน่ห์มหานิยมเหนือจิตใจคนทั้งหลาย เป็นที่รักของคนและเทวดา รวมไปถึง คุ้มครองแคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจดลบันดาลพันช่องพันประการ กันภูตผีปีศาจ แม้แต่เทวดาอยู่บนชั้นฟ้า ยังต้องลงมาปกปักรักษาดูแลผู้ที่มีอิ่นไว้ครอบครอง

" อิ่นเมตตาหลวง " สร้างจากมวลสารอันเป็นมหามงคลทนสิทธิ์ชั้นสูงทั้งสิ้น ปลุกเสก ปั้น-เผา ร่ายเวทย์เรียกสูตรครบธาตุ ปลุกคาถาแช่น้ำมันจันทร์ - น้ำมันกฤษณา ว่านยาเมตตาโชคลาภมหาเสน่ห์108 อาบแสงจันทร์ 22 คืนเพ็ญ ร่ายมนต์เรียกสูตรปลุกอักขระมหาเวทย์คาถาจนเกิดพลังธาตุมหาอำนาจ มีฤทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม อำนาจ เดชะ โชคลาภ ดลบันดาลได้พันช่องพันเรื่อง ตามแต่อธิษฐาน



" อิ่นเมตตาหลวง " คือสัจธรรมแห่งสรรพสิ่งล้วนเป็นคู่ ผสมสานกันระหว่าง " ปัญญา " กับ " กรุณา " ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว หลอมรวมเป็น " ความรัก " ซึ่งนั้นคือพลังอำนาจของ " อิ่น " เครื่องรางแห่งความรัก เมตตา อันเป็นการก่อเกิดกำเนิดทุกสรรพสิ่ง คือความสำเร็จ คือความสมปรารถนาทุกปราการ



คุณวิเศษของอิ่น
ใช้ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ได้พันช่อง (สารพัดทางเสน่ห์) บูชาเพื่อให้คนในบ้านรักกัน เรียกโชคลาภ เงินทอง ค้าขายดี ทำมาค้าขึ้น เรียกทรัพย์ลาภผลข้าวของเงินทอง ครอบครัวอยู่ดีมีสุข คนในบ้านจะชุ่มเย็นกาย ชุ่มเย็นจิต อิ่นเป็นตัวแทนของการเกิด ความงอกงาม และ ความสมดุล (หยิน หยาง) 


คนล้านนาเชื่อว่าการที่ได้มีอิ่นไว้บูชาจะทำให้คนทั้งหลายเมตตารักใคร่ มีไว้กับบ้านเรือน จะทำให้คนในบ้านนั้น ครอบครัวนั้น รักใคร่กลมเกลียวกัน เมตตาเอื้ออาทรกัน หากมีติดกายบูชาไว้ติดตัวก็จะทำให้มีเสน่ห์สุดยอดเมตตา มหานิยม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภ ข้าวของเงินทองไหลมาเทมา อิ่นจึงเป็นเครื่องรางที่นิยมตั้งแต่ล้านนาในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ถึงตอนนี้อิ่นยังได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย

อันว่า อิ่นหลวงเมตตามหาเสน่ห์นั้น จุดประสงค์แห่งครูบาอาจารย์คือ " ต้องการให้ผู้ที่บูชาอิ่นติดกายมีกระแสความเมตตาคุ้มครองคุ้มภัย ให้เป็นที่รักใคร่น่าเมตตาเอ็นดู เข้าเจ้ารักนายเมตตา ข้าบริวารเกรงใจให้ความเคารพ ทำอะไรก็สำเร็จง่ายๆ ด้วยคนทั้งหลายล้วนรักใคร่ เมตตา ปราณี " 

คงไม่มีใครปฎิเสธว่าไม่อยากให้มีใครมารัก มาเอ็นดู ไสยเวทย์ทางเสน่ห์เมตตาจึงเกิดขึ้นเพื่อช่วยเสริมวาสนา หนุนชะตาราศี ให้กับผู้ที่มีชะตาต่ำเรื่องเสน่ห์ เมตตา มหานิยม ไร้คนรักใคร่เอ็นดู บางคนพูดจาอะไรคนก็ไม่เชื่อถือ ไม่ชอบหน้า ไม่อยากฟัง คอยกดข่ม รังเกียจ รังแก อยู่ร่ำไป มีความรักก็ต้องเป็นรอง โดนเบื่อหน่ายทอดทิ้ง ค้าขายก็ไร้เสน่ห์เรียกลูกค้าไม่ได้ เงินทองขาดมือ ทำธุรกิจการค้าใดใด ก็ไร้คนเมตตาค้ำคูณช่วยเหลือ ปัญหาจากเรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคนรอบกายไร้ซึ่งความเมตตา ต้องตกเป็นเบี้ยรองบ่อน โดนเขาเอาเปรียบรังแกอยู่ร่ำไป
ความปรารถนาแห่งครูบาอาจารย์ ท่านจึงสร้างปลุกเสกสรรพเครื่องรางมหามงคล ด้านมหาเสน่ห์ เมตตาโชคลาภ มหานิยม ไว้เกื้อหนุนค้ำคูณผู้มีชะตาต่ำเช่นนี้ให้สามารถดำเนินชีวิตในวิถีทางโลก วิถีแห่งมนุษย์ ได้มีสุข สงบ ประสบความสุข ความดี ความสำเร็จตามปรารถนา
" หากมนุษย์ผู้ใดถือวิสัยในการครองอยู่เรือน
จิตใจของเขาย่อมมีกิเลสเจือปนมาไม่มากก็น้อย
ต่างคนต่างก็คิดว่า ทุกคนที่ได้พบเห็นมีศักดิ์ต่ำ มีศักดิ์สูง
ทั้งๆที่ความจริงนั้นมิมีอันใดเลย
ผู้ที่คิดว่าเขาศักดิ์สูง
เพราะเขาเจือปนกับผู้ที่ด้อยกว่าเขาในบางเรื่องของชีวิต
ผู้ที่คิดว่าเขาศักดิ์น้อย
เหตุเพราะเขาได้เจือปนคุ้นเคย
อยู่ในหมู่คนที่มีข้าวของเงินทองมากกว่าเขา
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความคิดพิจารณาแห่งเขา
โดยมีผู้รองรับฐานความคิดคือ " จิต " ของเขา
เมื่อผู้ใดคิดว่าตนเองนั้นด้อย
จิตของเขาในตอนนั้น
จะมีความเข้มข้นของพลังด้านบวกน้อย
เพราะจิตภายในของเขาผู้นั้นหดหู่
เมื่อผู้ใดคิดว่าตนเองนั้นเหนือผู้ใด
จิตของเขาในตอนนั้น
จะมีความหนาแน่นของพลังด้านบวกมาก
เพราะจิตของเขานั้นฮึกเฮิม
หากผู้ที่มีชะตาด้อยกว่าเขานั้น
จะต้องหล่อหลอมจิตใจของตน
ให้มีพลังอำนาจอยู่เหนือจิตใจผู้ใด
ผู้นั้นจึงจะมีชีวิตอันสมบูรณ์ไม่ด้อยกว่าผู้อื่น
แต่เหตุที่จะหล่อหลอมจิตผู้นั้นให้มีพลังอำนาจสูงสุด
ก็ต้องมีเครื่องช่วยเติมเต็มภายในชีวิตเขา
สิ่งนั้นคือ ..

" เครื่องรางที่เสริมพลังจิตตานุภาพให้มีฤทธิ์อิทธิคุณด้านเมตตา มหาเสน่ห์ พกติดกายไว้ให้จิตมีฤทธิ์ ความคิดมีอำนาจ ใครเห็นก็รักใคร่ไหลหลง " 




 " อิ่นเมตตาหลวง " จึงประสิทธิ์ขึ้นมาเพื่อเสริมให้ผู้ที่ถือวิชา มีพลังอำนาจทางด้านมหาเมตตา มหาเสน่ห์ คนรัก คนหลง คนนิยม คนทั้งหลายเอ็นดู ปลุกเสกด้วยมหาเวทย์คาถา มวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ ผสานมหาอำนาจแรงจิตแห่งครูบาอาจารย์ ประสิทธิ์ลงสู่อิ่นเมตตาหลวงให้มีอำนาจจิตตานุภาพแรงกล้าเหลือล้น สูงเกินกว่ากำลังจิตเดิมของผู้บูชา เป็นกระแสพลังอำนาจแห่งถ้อยคาถามหามงคลอันดีงาม พลังแห่งความเมตตากรุณา มหาอำนาจกุมจิตมัดใจ เมื่อกระแสพลังนี้ไปกระทบจิตผู้ใด เขาจะไม่มองว่าเราต่ำต้อยด้อยกว่าเขา คลื่นพลังจิตเราจะเหนือว่าเขา เขาก็จะยอมเรา จะเมตตาเรา รักใคร่เอ็นดู เกิดความเมตตาปราณี เกื้อกูล อุดหนุนค้ำชูเรา ที่โกรธเกลียดจะให้อภัยกลายเป็นรักใคร่ นิยม ชื่นชม ชื่นชอบ ที่เอาเปรียบรังแกก็จะมาช่วยเหลือค้ำคูณกัน ที่ร้างราห่างไกล ก็จะคิดถึงอาวรณ์ห่วงหา เกิดความรักใคร่เมตตาผูกพัน อันมิใช่การทำเสน่ห์สายต่ำ มีแต่ความรัก ความเมตตา ความเป็นศิริมงคลทั้งสิ้น

“ผู้ใดใช้ถูกใช้เป็นก็เหมือนดั่งมีแก้วสารพัดนึก” รีบหามาบูชาด่วน!!!



" อิ่นเมตตาหลวง " สร้างจากมวลสารอันเป็นมหามงคลทนสิทธิ์ชั้นสูงทั้งสิ้น ปลุกเสก ปั้น-เผา ร่ายเวทย์เรียกสูตรครบธาตุ ปลุกคาถาแช่น้ำมันจันทร์ - น้ำมันกฤษณา ว่านยาเมตตาโชคลาภมหาเสน่ห์108 อาบแสงจันทร์ 22 คืนเพ็ญ ร่ายมนต์เรียกสูตรปลุกอักขระมหาเวทย์คาถาจนเกิดพลังธาตุมหาอำนาจ มีฤทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม อำนาจ เดชะ โชคลาภ ดลบันดาลได้พันช่องพันเรื่อง ตามแต่อธิษฐาน

มวลสารศักดิ์สิทธ์บางส่วนในการจัดสร้าง "อิ่นเมตตาหลวง"

ลูกปัดทราวดีโบราณ ผงดินอาถรรพ์จากหลากหลายสถานที่สวยงามคนนิยม ผงดินจากหลากหลายร้านอาหารขายดีมากคนนิยม มวลสารว่านยามหามงคล ว่านยามหาเสน่ห์เมตตาครบสูตร ผงแก้วโป่งข่ามรัตนชาติศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 12 ชนิด ผงทองคำบริสุทธิ์ ผงเงิน ผงอัญมณีนพเก้า ผงลบมหาเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ มหาอุจจ์ กาฝาก15ชนิด [[ เคล็ดพลังเลข6แห่งดาวศุกร์ เป็นมหาเสน่ห์ มหาเศรษฐี สวยงามโดดเด่นเจิดจ้า น่าลุ่มหลง ]] มีกาฝากรัก-กาฝากาหลง-รักซ้อน-มะยม-มะรุม-มะขาม -ขนุน--ยอ-คูณ-พยูง-สัก-กันเกรา-มะดัน-มะค่า-กฤษณา (อานุภาพกาฝาก คือ ได้อะไรมาง่ายๆป้อนถึงปาก ชีวิตไม่ลำบาก มีมหาเสน่ห์ดึงดูดจิตผูกมัดใจผู้คน มีเมตตา มหานิยม มหาอำนาจ มั่งมีโชคลาภ ค้าขายดี แคล้วคลาด กันภัย*) วัตถุอาถรรพ์ผงกะลาตาเดียว กะลามหาอุจจ์ กะลาแปดตา และมวลสารอาถรรพ์ทนสิทธิ์อันเป็นความลับจากปั๊บสาตำราไสยเวทย์ล้านนาโบราณหลายร้อยปี ที่พระอาจารย์เก็บสะสมมายาวนาน
"อิ่นเมตตาหลวง " เป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์ เมตตาโชคลาภ สายขาว ไม่มีของต่ำ ไม่มีผีไม่มีพราย มวลสารทั้งสิ้นล้วนเป็นสิ่งอันเป็นมงคล และ เวทย์คาถาอันศักดิ์สิทธิ์เป็นมหามงคลชีวิตแห่งครูบาอาจารย์ประสิทธ์อาคมลงไว้ทั้งสิ้น ผู้บูชาไปใช้ให้หมั่นสวดภาวนาคาถาเชื่อมพลังจิตเชื่อมบุญกับครูบาอาจารย์ ร่ายคาถาปลุกฤทธิ์อิ่นด้วยจิตสว่างสงบ และอธิษฐาน เช้า-ค่ำ

รักษาความคิดให้เป็นมงคล รักษาคำพูดให้เป็นมงคล รักษาการกระทำให้เป็นมงคล ประพฤติตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่อธิษฐานปรารถนา ไม่คิดลบ ไม่พูดร้าย ไม่ทำผิดคิดชั่วเบียดเบียนใคร ทุกๆคำอธิษฐานก็จะสำเร็จสมประสงค์โดยไม่มีข้อยกเว้น !!!

อธิษฐานอะไรแล้วสำเร็จ ก็ให้ร่ายคาถา 108 จบ ทำสมาธิ ส่งกระแสบุญถึงครูบาอาจารย์ และหมั่นสร้างบุญ ทาน ศีล ภาวนา สมาธิ ไม่ต้องเลี้ยงอิ่นไม่ต้องถวายอะไร เพราะอิ่นไม่มีวิญญาน ไม่มีผี ไม่มีพราย ไม่มีของต่ำมนต์ดำใดใด พาเข้าวัดได้ พกติดตัวไปปฎิบัติธรรมได้ ( ยิ่งหมั่นสวดบริกรรมคาถายิ่งเพิ่มฤทธิ์ให้อิ่นทวีคูณ)

หมั่นกำอิ่นสวดคาถาบูชา ปลุกฤทธิ์เสริมเดชอิ่น เช้า-ค่ำ
22 จบตากำลังจันทร์มหาเสน่ห์ มหาอำนาจ ดีมาก
108 จบ เช้า-ค่ำ ดียิ่งเอนกอนันต์
จบสุดท้าย สวดแบบปิดทวาร แล้วตั้งจิตอธิษฐาน
สำเร็จสมปรารถนา ผ่านได้ทุกเรื่อง




อำนาจแห่งคาถานางมัทรี
นางมัทรีเข้าป่าแสวงหาผลไม้ ไปทางทิศใดก็หาอันตรายบ่มิได้ เป็นที่รักใคร่ของเทวดาทั้งหลาย ไม่ต้องอุบาทว์ โรคภัย ผู้ใดภาวนาหมั่นสวดคาถาบูชาสีผึ้งนางมัทรี ปลุกฤทธิ์อิ่นเมตตาหลวงนี้ แม้นนอนในป่าดงด่านผี ศัตรูงูเงี้ยวทำอันตรายมิได้ด้วยมีจิตคิดเมตตา เทวดารักษาไม่ขาดสายนั้นแล ..ทางล้านนานั้นพระสงฆ์องค์เณรเจิมทากันภูติผี สัตว์ร้ายยามออกธุดงค์ และท่านว่า..พระรูปใดออกบิณฑบาตเจิมสีผึ้งภาวนาคาถานี้ไม่มีอดเลย..ครูบาอาจารย์ท่านว่าอย่างนั้น​






ปรารถนาสิ่งใดอย่างแรงกล้าให้เขียนดวงชะตา กำกับคำอธิษฐานใส่ไว้ในกายอิ่น ขอได้ทีละเรื่อง สำเร็จทีละอย่าง หมั่นสวดคาถาบูชาครู ปลุกฤทธิ์อิ่นเช้า-ค่ำ เอ่ยคำอธิษฐานที่ท่านเขียนไว้ในอิ่นทุกวัน ทุกค่ำเช้า ร่ายคาถาด้วยจิตอันประภัสสร สุข สว่าง สะอาด สงบ คิดถึงแต่ภาพที่ต้องการมี ต้องการได้ ต้องการเป็น พูดในถ้อยคำอันไพเราะอ่อนหวาน เป็นมงคล ไม่ด่าไม่สาปแช่งใคร เชื่อมั่นศรัทธาในแรงครูบาอาจารย์ ท่านก็จะค้ำคูณให้ทุกๆคำอธิษฐานสำเร็จ สัมฤทธิ์ เป็นจริง





พกอิ่นติดตัวไว้เป็นสุดยอดมหาเสน่ห์เมตตา คู่รัก-คู่สามีภรรยาใดบูชาอิ่นไว้ ลงกำกับชื่อสองดวงชะตาคู่กันใส่ไว้ในกายอิ่น หมั่นร่ายคาถาบูชาครูปลุกฤทธิ์อิ่น ท่านว่า..คู่รักจะรักใคร่เมตตาถวิลหา เอื้ออาทรกันมิเสื่อมมิคลายเลย

ยามเข้าตาจนหน้าสิ่วหน้าขวานหาทองออกไม่เจอ แก้ปัญหาไม่ได้ นำอิ่นออกมากำและสวดคาถาแบบปิดทวารระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์แล้วอธิษฐาน ด้วยจิตนิ่งสงบมั่นคง มั่นใจ เชื่อมั่นศรัทธา แล้วปาฎิหาริย์จะบังเกิด!!!

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
คุณต้องจำไว้ว่า
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
"อิ่น" จะดลบันดาลให้ในสิ่งที่คุณแสดงออก กระทำ พูด คิด อธิษฐาน บ่อยๆ "อิ่น" แยกแยะไม่ได้ว่าสิ่งใดคือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ หรือคุณบ่น ประชด กระทบกระแทก อิ่นจะบันดาลในสิ่งที่คุณพูดบ่อยๆ อธิษฐานถึงบ่อยๆ อิ่นจะดลบันดาลสิ่งนั้น ดังนั้น คุณต้องกระทำต้องแสดงออก และพูดแต่สิ่งที่คุณการมี ต้องการได้ ต้องการเป็น กับอิ่นของคุณบ่อยๆ ด้วยความเชื่อมั่นศรัทธา ไม่ลังเลสงสัย ไม่เอ๊ะไม่ถ้าไม่เผื่อไม่อย่างนั้นอย่างนี้ ห้ามพูดลบ พูดร้าย พูดไม่ได้ "อิ่น" แยกแยะไม่ได้ และจะเข้าใจว่าสิ่งที่คุณพูด และคิด คือสิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริง!!! ครูบาอาจารย์ท่านจึงบอกว่า หมั่นสวดบูชาไปเถิดเช้าค่ำ อธิษฐานสิ่งใดนั้นได้แน่ๆ ช้าเร็วไม่รู้ตามกำลังจิตพลังใจ รู้แต่ว่าเมื่อความสำเร็จมันมาถึง จะได้แบบเกินคาดหมาย ยิ่งใหญ่กว่าที่คาดหวัง


ตัดกระดาษขนาดประมาณ 3.5 เซนติเมตร x 1.5 เซนติเมตร เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สองคู่รัก หากไม่ทราบวันเดือนปีเกิดเขาก็ให้เขียนแค่ ชื่อ นามสกุล เท่าที่รู้ และคำอธิษฐาน แล้วม้วนกระดาษใส่เข้าไปภายในตัวอิ่น 



***ณ ขณะที่ตัดกระดาษ ลงมือเขียนอักษร จิตใจต้องสงบนิ่ง จิตต้องประภัสสร สุข สว่าง สงบ สดใส มีความเบิกบาน มีความสุขในแบบที่เราต้องการมี ต้องการเป็นต้องการได้ ระลึกให้เห็นภาพเรากับคนที่เรารักอย่างมีความสุขใจ เบิกบาน มีความรักความเมตตาความปรารถนาดี ส่งไปถึงเขา ส่งความรักความเมตตาไปกระทบจิตเขา นึกให้เห็นภาพเขา หากยังมีความกังวล หม่นหมอง เศร้าใจ อย่าเพิ่งเขียนเด็ดขาด รอให้จิตสงบๆก่อนค่อยเริ่ม  จงจำไว้ว่า อิ่นจะดลบันดาลในสิ่งที่คุณ ทำ พูด คิด อธิษฐาน และแสดงออก.. อิ่นจะแยกแยะไม่ได้ ว่าอันไหนคุณบ่น คุณประชด และอันไหนคือคุณอยากได้จริงๆ

- หากขอเรื่องอื่นๆ เช่นขอเงิน ของาน ก็คิดให้เห็นภาพว่าเรามีเงินจำนวนมากๆ ได้งานที่รักพอใจแล้วจริงๆ 
- หากขอเรื่องค้าขาย ก็ให้นึกภาพที่เราต้องการให้เกิดขึ้น คนหลั่งไหลมาซื้อของเรามากมาย เงินทองกองล้น สินค้าขายดีมาก
- หากขอให้หมดหนี้สิน ก็ให้นึกภาพเรามีเงินทองมากมาย งานดี เงินดี ค้าขายดี ชีวิตดีมีความสุข
- หากขอให้ผู้ใหญ่เมตตา คู่ค้าคู่ความเอ็นดูเมตตาให้ประโยชน์โชคลาภ ก็ให้นึกถึงหน้าเขาด้วยจิตใจที่ดีงาม มีความรัก ความกรุณาปราณีเมตตาต่อเขา
-  สวดแบบปิดทวารก่อนอธิษฐานทุกครั้ง
**อย่าลืมว่า "ต้องกระทำ" ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราอธิษฐานด้วย ทั้งการกระทำ คำพูด ความคิด ไม่ใช่อธิษฐานให้ขายดีแล้วนอนเกาพุงฝันหวานรอ ต้องทำงาน มีมานะ วิริยะ อุตสาหะ ต้องคิดพัฒนาร้าน คิดพัฒนาสินค้า เตรียมพร้อมรับลูกค้ามากมาย และเงินก้อนใหญ่ เพื่อให้ปาฎิหาริย์เกิดและคำอธิษฐานเป็นจริง

การเขียนคำอธิษฐาน ถ้าไม่ใช่เรื่องความรัก ก็เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของเจ้าของอิ่น และคำอธิษฐาน 1 เรื่องที่สำคัญยิ่ง ต้องการด่วน ลงไป


คาถาปลุกฤทธิ์ "อิ่น" คือ "คาถาสีผึ้งนางมัทรี" ท่องจำให้ได้ขึ้นใจห้ามอ่าน!! หมั่นสวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่นเช้า-ค่ำ กี่จบก็ได้สวดตามกำลังใจ มากจบยิ่งดี อิ่นคู่ใดเจ้าของหมั่นปลุกฤทธิ์ปลุกธาตุร่ายคาถา อิ่นคู่นั้นจะยิ่งศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์อิทธิคุณสูงยิ่งนักฯ. การหมั่นสวดคาถา คือการเชื่อมจิต เชื่อมบุญถึงครูบาอาจารย์ ขออำนาจบุญบารมีท่านมาเสริมกำลังบุญหนุนดวงชะตา ค้ำคูณเรา และเป็นการรวมจิตให้นิ่งมีกำลัง เพื่อทุกคำอธิษฐานจะสำเร็จ สัมฤทธิ์ผลเป็นจริงในเร็ววัน




"คาถาสีผึ้งนางมัทรี" สวดปลุกอิ่น ไม่ต้องว่า นะโมก่อน เพราะเนื้อคาถาเป็นเรื่องทางโลก ให้ว่าคาถาเลย เมื่อท่านบูชาอิ่น จงเข้าใจเคล็ดลับไสยเวทย์แห่งอิ่นด้วยว่า อิ่นคือความรัก ความเมตตา กรุณาปราณี อิ่นทำให้คนรักกัน เมื่ออยากได้ความรัก จงให้ความรักก่อน อิ่นดลบันดาลความมั่งคั่ง ลาภ ยศ เงินทอง ความสำเร็จ ท่านก็จงเป็นผู้หมั่นทำทาน รักษาศีลเป็นนิตย์ อิ่นมีฤทธิ์ทางมหาเสน่ห์เมตตา มหานิยม ท่านก็จงเป็นผู้มีจิตใจงามวาจาอ่อนหวาน พูดถ้อยคำมงคลอยู่เสมอ เพียงทำได้ดั่งนี้ "อิ่นเมตตาหลวง" ก็จะมีอำนาจดลบันดาลได้ดั่งแก้วสารพัดนึก 

"อิ่นเมตตาหลวง" คือจิตใจอันเมตตากรุณามีไมตรีจิต จิตเมตตากรุณาทำสิ่งใดย่อมสำเร็จ เป็นมหานิยม อุดมโชคลาภ "อิ่น"แทนกำเนิดทุกสิ่ง สัตว์ ภูติ เทวดา มาร พรหมล้วนเคยเกิดในโลก คนใช้อิ่นในทางชั่ว ย่อมมัวหมองบาปกรรมย่อมตามสนอง บาปกรรมจองเวรตามไปทุกชาติภพ " อิ่น " เป็นตัวช่วยในเรื่องโลกๆ ที่ยังต้องกินต้องใช้ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม ไม่ใช่เอาไปผิดศีล ทำร้ายทำลายกดข่มผู้อื่น ทุกศาสตร์ย่อมมีความหมาย ทุกความหมายย่อมพ้นความงมงายด้วยปัญญา คนดีจึงใช้ของดี ของดีย่อมทำลายใจอกุศล คำสาปวิชาจึงมีไว้ ผู้ทำกรรมเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น

อิ่นหรือรูปชายหญิงกอดกัน แสดงการกำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนาม แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า #ภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้ให้ตื่นจากความหลงความโลภความโกรธ จิตจึงเป็นอิสระ จากเครื่องผูกมัดกายใจ ลด ละ อัตตา เชื่อมโยงจิตวิญญานความรัก ความศรัทธา ด้วยความรัก ความเมตตา ความศรัทธา และความเคารพซึ่งกันและกัน ให้จิตตื่นรื่นเริงยินดีในการให้ มีความรัก ความเมตตา การให้อภัย อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน อันเป็นสุดยอดแห่งเสน่ห์ เมตตามหานิยม ที่มีอำนาจมหาศาลในการดลบันดาลทุกๆ สิ่งให้สมใจปรารถนา


อิ่นมหาเสน่ห์อันดับหนึ่งเบญจภาคีเครื่องรางล้านนานี้ เล่าขานกันว่า..อิ่นเป็นเครื่องรางชั้นสูง บ้านใดมีอิ่นไว้ในบ้านๆนั้นก็จะมีแต่ความรักไม่มีเรื่องให้ทะเลาะหรือผิดใจกัน เป็นเครื่องรางที่ควรมีติดกาย ติดบ้านเรือน ติดห้องนอนห้องหอ ชนชั้นสูง เจ้าขุนมูลนาย จะหวงแหนกันมาก จะมอบอิ่นอันศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่ไว้ให้ลูกหลานในวันแต่งงาน และเป็นของขวัญสูงค่าที่คนรักจะมอบให้แก่กันและกัน 
อิ่นเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก แรงมากในด้านมหานิยมมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เป็นที่หนึ่งด้านมหาเสน่ห์ มหานิยม ช่วยในเรื่องการเจรจาค้าขาย เข้าหาเจ้านาย เป็นที่รักของคนและเทวดา รวมไปถึง แคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจดลบันดาลพันช่องพันประการ กันภูตผีปีศาจ แม้แต่เทวดาอยู่บนชั้นฟ้า ยังต้องลงมาปกปักรักษาดูแลผู้ที่มีอิ่นไว้ครอบครอง


อิ่นเมตตาหลวงนี้ มีฤทธิ์ทางใจ ออกฤทธิ์ทางวาจาการเจรจา ทำให้คนทั้งหลายเมตตารักใคร่ บังเกิดเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รัก จากไปก็อาลัยคิดถึง เจรจาสิ่งใดก็น่าเชื่อถือ เข้ามาอุดหนุนแล้วก็อยากเวียนมาอีก ทั้งหมดนี้เป็นไปด้วยแรงเมตตา โชคลาภหลั่งไหล หนุนดวงเสริมวาสนาบารมี

ก่อนจะใช้ .. ให้ตั้งจิตแน่วแน่ สวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น .. แล้วอธิษฐานใช้ตามความปรารถนาใช้ได้ครบทุกๆ ด้าน เพียงแต่ว่าเจตนาของผู้ใช้ จะประสงค์สิ่งใด สำคัญ!! อยู่ที่จิต ขอให้จิตนิ่งแน่วแน่ ระลึกถึงครูบาอาจารย์ อยู่ในศีลธรรมคุณงามความดี ก็จะสำเร็จได้ดั่งอัศจรรย์ !!!




ผู้ใดมีอิ่นไว้ติดตัวย่อมมีอำนาจเหนือจิตใจของเพศตรงข้าม มีอำนาจในทางดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้เพศตรงข้ามคิดถึงตัวเราเสมอๆ เกิดความรักความต้องการที่จะใกล้ชิด อิ่นเมตตาหลวงเป็นเครื่องรางที่ดลบันดาลความรัก ความผูกพัน หากใครที่อยากมีความรักและอยากให้เขาก็รักเราเช่นกันก็ให้บูชาติดกายไว้หมั่นสวดปลุกฤทธิ์อิ่น ท่านว่าจะได้สมดั่งใจแลฯ

คนที่มีคู่อยู่แล้ว คู่เหินห่างไม่ค่อยใยดี ท่านว่าให้นำอิ่นเมตตาหลวง พกติดตัวทำการอธิษฐานต่ออิ่น ไม่ช้าไม่นานคู่รักจะคืนดีด้วยอย่างน่าอัศจรรย์ คู่สามีภรรยาที่แตกแยกกัน สามีนอกใจภรรยา ภรรยานอกใจสามี จะกลับมารักใคร่กลมเกลียวกัน ส่วนคู่ที่รักกันอยู่แล้วก็จะรักยิ่งๆ ขึ้นไป ผูกจิตให้รักผูกใจให้คิดถึงคะนึงหามิรู้ลืม มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น ให้บังเกิดความเมตตารักใคร่


“ผู้ใดใช้ถูกใช้เป็นก็เหมือนดั่งมีแก้วสารพัดนึก” รีบหามาบูชาด่วน!!!



สนใจบูชา สอบถามเคล็ดลับการบูชาได้ที่ 
หมิง หมิง
LINE : @namotasa (ใส่@ด้วย)







สนใจบูชา สอบถามเคล็ดลับการบูชาได้ที่ 
หมิง หมิง
LINE : @namotasa (ใส่@ด้วย)
























































































“ผู้ใดใช้ถูกใช้เป็นก็เหมือนดั่งมีแก้วสารพัดนึก” รีบหามาบูชาด่วน!!!



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น