วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560

20 นาทีสุดท้าย ก่อนตาย สำคัญมาก

“จิตสุดท้ายก่อนตาย”
นพ.สรศักดิ์. ศุภผล รพ.รามาผู้ส่งบทความดีๆนี้มาให้ครับ
สำคัญก็จริง แต่ .......
“จิตหลังความตาย 20 นาทีแรก”
ก็มีความสำคัญในการเปลี่ยนภพด้วย
“การศึกษาทางประสาทสรีรวิทยา นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
พบว่าหนูที่ตายใหม่ๆ หัวใจหยุดทำงาน เลือดหยุดไปเลี้ยงสมอง แต่คลื่นสมองยังคงอยู่ในภาวะ “ตื่นตัวขั้นสูง”
บ่งบอกถึงการมีสติสัมปชัญญะของคนเมื่อหัวใจหยุดเต้น”
ดังนั้น ทางการแพทย์บอกว่า “ตาย” แต่สมองยังทำงานอยู่ เป็น “การสร้างภาพจากสังขารจิต 20 นาที” ว่าจะไปภพภูมิใด
ดังนั้น จึงควร “เหนี่ยวนำ ไม่ให้นิมิตมาหลอกหลอน 20 นาที หลังหัวใจหยุดเต้น (กรรม กรรมนิมิต คตินิมิต) การเข้าสู่ความมืด(ภวังคจิต) บังสุกุล คำศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละศาสนาจะปลุกจิตให้ตื่นหรือถอนออกมาเอง”
แปลว่า ต่อให้ก่อนตายญาติและคนไข้ได้เตรียมตัวเหนี่ยวนำจิตเป็นอย่างดี จนตายไปแล้ว (ก็คือหัวใจหยุดทำงาน)
สมองก็ยังเหนี่ยวนำสิ่งที่ทำก่อนตายอยู่ เช่น ถ้ากำลังสวดมนตร์ภาวนา ตายไปแล้วจิตและสมองก็ยังหมกมุ่นอยู่กับการสวดมนต์ภาวนา ดวงจิตก็ย่อมเปลี่ยนภพภูมิไปที่ดี
แต่หากสมมติว่า ก่อนตายเตรียมตัวดีมาก แต่เมื่อตายไปแล้ว
ญาติๆ ร้องไห้ระงมเสียงดังลั่น หรือ ลูกหลานทะเลาะแย่งสมบัติด้วยเสียงแซ่งแซ่ บรรยากาศเหล่านั้นก็จะเหนี่ยวนำให้สมองครุ่นคิดตรงนั้นและก็นำพาดวงจิตไปสู่ภพภูมิไม่ดีได้นั่นเอง
ดังนั้น สิ่งที่ควรทำหลังความตาย 20 นาทีแรก คือ สวดมนต์ เมื่อรู้ว่ามีคนตาย ก็หยิบขวดน้ำมนต์เย็นๆ ในตู้เย็นติดมือไป และหยดน้ำมนต์ที่ตาที่สาม (จักระ 6) ตรงหน้าผากหว่างคิ้ว เพื่อให้ความเย็นของน้ำไปส่งสัญญาณให้สมองที่ตรงกลางข้างในซึ่งยังทำงานอยู่ได้ตื่นตัวฟังเสียงสวดมนต์หรือบังสุกุล แต่ถ้าใครไม่มีน้ำมนต์ ก็ให้ใช้น้ำเย็นธรรมดาก็ได้

สรุป

บรรยากาศในการเตรียมตัวก่อนตายและหลัง
ความตาย 20 นาที
จะต้องปราศจากเสียงร้องไห้เศร้าโศก
การทะเลาะเบาะแว้ง
หรือการพูดเรื่องไม่สบายใจ
เพื่อให้คนตายได้เปลี่ยนภพภูมิที่ดีขึ้น
แต่ทั้งนี้ ตอนที่มีชีวิตอยู่ก็ต้องทำความดี ละความชั่ว ขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใสด้วย
จะได้พร้อมเปลี่ยนภพภูมิได้ทุกที่ ทุกเวลา
จิตใครเศร้าหมอง ก็สั่งจิตให้คลายความเศร้าหมอง ให้อภัยปล่อยวาง
คิดซะว่ากฎหมายเอาผิดไม่ได้ แต่ก็หนีกฏแห่งกรรมไม่พ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่กฏแห่งกรรม
เราไม่ต้องไปเอาคืนแก้แค้น เอาเวลามาทำจิตให้ผ่องใสเข้าสู่ความว่างดีกว่า

++++++++++++++++++++++

ผู้ใด เผยแผ่ ผู้นั้น ได้สะสมบุญ บารมี

สาธุ สาธุ สาธุ





" อิ่น " คือเครื่องรางแห่งความรัก ความเมตตา กรุณาปราณี เป็นวิชามหาเสน่ห์ชั้นสูงของคนล้านนาโบราณ รูปคนกอดกัน คือการหลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียว ความรักเมตตากรุณาจากหัวใจไหลรินสู่กันและกัน ถ่ายทอดความอ่อนโยน การยอมรับกันและกัน ส่งพลัง กำลังใจความห่วงหาเอื้ออาทรแห่งความรัก ความเมตตา การให้อภัย เติมเต็มจิตวิญญาน เกิดเป็นความสมบูรณ์แห่งพลังชีวิต นำไปสู่การก่อกำเนิดทุกสรรพสิ่ง เกิดความสมดุลย์ สมบูรณ์พูนสุข ความมีชีวิตชีวา ความสำเร็จ ความมั่งคั่งล้นเหลือ ความสมปรารถนานานัปประการของชีวิต



" อิ่นเมตตาหลวง " คือสัจธรรมแห่งสรรพสิ่งล้วนเป็นคู่ ผสมสานกันระหว่าง " ปัญญา " กับ " กรุณา " ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว หลอมรวมเป็น " ความรัก " ซึ่งนั้นคือพลังอำนาจของ " อิ่น " เครื่องรางแห่งความรัก เมตตา อันเป็นการก่อเกิดกำเนิดทุกสรรพสิ่ง คือความสำเร็จ คือความสมปรารถนาทกุปราการ



ด้วยเหตุนี้ เจ้านายชนชั้นสูงในสมัยล้านนาโบราณ จึงให้คุณค่าและความสำคัญ กับเรื่องมหาเสน่ห์เมตตาเป็นอย่างยิ่ง ครูบาอาจารย์ด้านไสยเวทย์ จะปรุงน้ำมัน สีผึ้ง ว่านยามหาเสน่ห์ สร้างเครื่องรางคง เข้ม ข่าม ขลัง ด้านมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม ไว้ให้ลูกหลาน ลูกศิษย์ ไว้บูชา เพื่อค้ำคูณพลังจิตกำลังใจหนุนดวงเสริมชะตา ให้ชีวิตดี ไร้อุปสรรค มีความสุข ทำสิ่งใดก็สำเร็จโดยง่าย เสริมราศีอำนาจวาสนา ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องครอบครัว ความรัก หน้าที่การงาน และความมั่งคั่งทางการเงิน 

คุณวิเศษของอิ่น
ใช้ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ได้พันช่อง (สารพัดทางเสน่ห์) ใช้บูชาเพื่อให้คนในบ้านรักกัน ใช้ทางโชคลาภ เงินทอง ค้าขาย ทำมาค้าขึ้น เรียกทรัพย์ลาภผลข้าวของเงินทอง ครอบครัวคนในบ้านจะชุ่มเย็น จิตใจชุ่มเย็น อิ่นเป็นตัวแทนของการเกิด ความงอกงาม และ ความสมดุล (หยิน หยาง)


คนล้านนาเชื่อว่าการที่ได้มีอิ่นไว้บูชาจะทำให้มีคนเมตตารักไคร่ มีไว้กับบ้านเรือน จะทำให้คนในบ้านนั้น ครอบครัวนั้น รักใคร่กลมเกลียวกัน หากมีไว้บูชากับตัวเราก็จะทำให้มีเสน่ห์ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภ ข้าวของเงินทองไหลมาเทมา อิ่นจึงเป็นเครื่องรางที่นิยมตั้งแต่ล้านนาในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ถึงตอนนี้อิ่นยังได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย




อันว่า " อิ่น " เมตตามหาเสน่ห์นั้น จุดประสงค์แห่งครูบาอาจารย์คือ " ต้องการให้ผู้ที่บูชาอิ่นติดกายมีจิตเมตตาเป็นที่รักน่าเมตตาเอ็นดู " คงไม่มีใครปฎิเสธว่าไม่อยากให้มีใครมารัก มาเอ็นดู ไสยเวทย์ทางเสน่ห์เมตตาจึงเกิดขึ้นเพื่อช่วยเสริมวาสนา หนุนชะตาราศี ให้กับผู้ที่มีชะตาต่ำเรื่องเสน่ห์ เมตตา มหานิยม ไร้คนรักใคร่เอ็นดู บางคนพูดจาอะไรคนก็ไม่เชื่อถือ ไม่ชอบหน้า ไม่อยากฟัง คอยกดข่ม รังเกียจ รังแก อยู่ร่ำไป มีความรักก็ต้องเป็นรอง ค้าขายก็ไร้เสน่ห์เรียกลูกค้า เงินทองขาดมือ ทำธุรกิจการใดใด ก็ไร้คนเมตตา ค้ำคูณช่วยเหลือ ปัญหาจากเรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคนรอบกายไร้ซึ่งความเมตตาเอ็นดู ต้องตกเป็นเบี้ยรองบ่อน โดนเขาเอาเปรียบรังแกอยู่ร่ำไป




ความปรารถนาแห่งครูบาอาจารย์ ท่านจึงสร้างปลุกเสกสรรพเครื่องรางมหามงคล ด้านมหาเสน่ห์ เมตตาโชคลาภ มหานิยม ไว้เกื้อหนุนค้ำคูณผู้มีชะตาต่ำเช่นนี้ให้สามารถดำเนินชีวิตในวิถีทางโลก วิถีแห่งมนุษย์ ได้มีสุข สงบ ประสบความดี ความสำเร็จตามปรารถนา




" หากมนุษย์ผู้ใดถือวิสัยในการครองอยู่เรือน
จิตใจของเขาย่อมมีกิเลสเจือปนมาไม่มากก็น้อย
ต่างคนต่างก็คิดว่า ทุกคนที่ได้พบเห็นมีศักดิ์ต่ำ มีศักดิ์สูง
ทั้งๆที่ความจริงนั้นมิมีอันใดเลย
ผู้ที่คิดว่าเขาศักดิ์สูง
เพราะเขาเจือปนกับผู้ที่ด้อยกว่าเขาในบางเรื่องของชีวิต
ผู้ที่คิดว่าเขาศักดิ์น้อย
เหตุเพราะเขาได้เจือปนคุ้นเคย
อยู่ในหมู่คนที่มีข้าวของเงินทองมากกว่าเขา
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความคิดพิจารณาแห่งเขา
โดยมีผู้รองรับฐานความคิดคือ " จิต " ของเขา
เมื่อผู้ใดคิดว่าตนเองนั้นด้อย
จิตของเขาในตอนนั้น
จะมีความเข้มข้นของพลังด้านบวกน้อย
เพราะจิตภายในของเขาผู้นั้นหดหู่
เมื่อผู้ใดคิดว่าตนเองนั้นเหนือผู้ใด
จิตของเขาในตอนนั้น
จะมีความหนาแน่นของพลังด้านบวกมาก
เพราะจิตของเขานั้นฮึกเฮิม
หากผู้ที่มีชะตาด้อยกว่าเขานั้น
จะต้องหล่อหลอมจิตใจของตน
ให้มีพลังอำนาจอยู่เหนือจิตใจผู้ใด
ผู้นั้นจึงจะมีชีวิตอันสมบูรณ์ไม่ด้อยกว่าผู้อื่น
แต่เหตุที่จะหล่อหลอมจิตผู้นั้นให้มีพลังอำนาจสูงสุด
ก็ต้องมีเครื่องช่วยเติมเต็มภายในชีวิตเขา
สิ่งนั้นคือ ..

" เครื่องรางที่เสริมพลังจิตด้านบวก มีฤทธิ์อิทธิคุณด้านเมตตา มหาเสน่ห์ " 




" อิ่นเมตตาหลวง " จึงประสิทธิ์ขึ้นมาเพื่อเสริมให้ผู้ที่ถือวิชา มีพลังอำนาจทางด้านมหาเมตตา มหาเสน่ห์ คนรัก คนหลง คนนิยม คนทั้งหลายเอ็นดู ปลุกเสกด้วยมหาเวทย์คาถา มวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ ผสานมหาอำนาจแรงจิตแห่งครูบาอาจารย์ ประสิทธิ์ลงสู่อิ่นให้มีอำนาจเหลือล้นสูงเกินกว่ากำลังจิตเดิมของผู้บูชาอิ่น อันเป็นพลังบวก คลื่นพลังงานแห่งความดีงาม ความรัก ความเมตตา มหาอำนาจ เมื่อกระแสพลังนี้ไปกระทบจิตผู้ใด เขาจะไม่มองว่าเราต่ำต้อยด้อยกว่าเขา คลื่นพลังจิตเราจะเหนือว่าเขา เขาก็ยอมเรา จะเมตตาเรา รักใคร่เอ็นดู เกื้อกูล อุดหนุนค้ำชูเรา ที่โกรธเกลียดจะให้อภัยกลายเป็นรัก ที่เอาเปรียบก็จะมาช่วยเหลือค้ำคูณกัน ที่ร้างรา ก็จะคิดถึงอาวรณ์ห่วงหากัน อยากอยู่ใกล้ๆ อยากช่วยเหลือดูแล. เกิดความเมตตาผูกพัน




ท่านว่า..ใครบูชาอิ่นถูกใช้อิ่นเป็น ผู้นั้นจะมีมหาอำนาจ มหาเสน่ห์เมตตามหานิยมในตนเองอย่างประมาณมิได้เลย ความรัก ความสุข เงินทอง ทรัพย์สิน ลาภยศ จะหลั่งไหลเข้ามามิขาด คิดสิ่งใด ปรารถนาสิ่งใด แม้ว่ายากเกินกำลัง สิ่งนั้นก็จะสำเร็จทุกประการแล !!!







"อิ่นเมตตาหลวง" เนื้อดินทราวดีโบราณ และดินอาถรรพ์จาก10สถานที่สวยงามคนนิยม ดิน10 ร้านอาหารขายดีมากคนนิยม มีมวลสารว่านมงคล ว่านยามหาเสน่ห์เมตตาครบสูตร แก้วโป่งข่ามรัตนชาติศักดิ์สิทธิ์บด 12 ชนิด กาฝาก9ชนิด กาฝากกาหลง-รักซ้อน-มะยม-มะรุม-มะขาม -ขนุน--ยอ-คูณ-พยูง (อานุภาพกาฝาก คือ ได้อะไรมาง่ายๆป้อนถึงปาก ชีวิตไม่ลำบาก มีมหาเสน่ห์ดึงดูดจิตผูกมัดใจผู้คน มีเมตตา มหานิยม มหาอำนาจ มั่งมีโชคลาภ ค้าขายดี แคล้วคลาด กันภัย*) และมวลสารอาถรรพ์ทนสิทธิ์อันเป็นความลับจากปั๊บสาตำราไสยเวทย์ล้านนาโบราณ
"อิ่นเมตตาหลวง" ปลุกเสก ปั้น เผา ร่ายเวทย์เรียกสูตรครบธาตุ "ดิน น้ำ ลม ไฟ " ปลุกคาถาแช่น้ำมันจันทร์หอมและว่านยามหาเสน่ห์ 108 อาบแสงจันทร์ 22 คืนเพ็ญ ร่ายมนต์เรียกสูตรปลุกอักขระด้วยวิชาเร้นลับจนเกิดวิญญานธาตุภายใน มีฤทธานุภาพด้านมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม  มหาอำนาจ ดลบันดาลได้พันช่องพันเรื่อง ตามแต่อธิษฐาน




หมั่นสวดบูชาคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น ค่ำเช้า ตั้งใจสวดกี่จบก็สวดตามนั้น (ยิ่งมากยิ่งดี) 
แต่จบสุดท้ายให้สวดแบบ"ปิดทวาร" แล้วจึงตั้งจิตตั้งใจอธิษฐาน



ปรารถนาสิ่งใดอย่างแรงกล้าให้เขียนกำกับไว้ แล้วใส่ไว้ในตัวอิ่น โดย..เขียนชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิดเจ้าของอิ่น และคำอธิษฐาน ใส่กระดาษเล็กๆ ม้วนบรรจุไว้ภายในตัวอิ่น ให้ขอทีละเรื่องทำทีละอย่าง ทุกครั้งที่สวดคาถา ให้สวดด้วยจิตอันประภัสสร สุข สว่าง สะอาด สงบ คิดถึงแต่ภาพที่ต้องการมี ต้องการได้ ต้องการเป็น พูดในถ้อยคำอันไพเราะอ่อนหวาน เป็นมงคล ไม่ด่าไม่สาปแช่งใคร

พกอิ่นติดตัวไว้เป็นสุดยอดเสน่ห์เมตตา คู่รักคู่สามีภรรยาให้สอดไว้ใต้เตียงนอนทุกค่ำคืนหลังสวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น จะรักใคร่เมตตาถวิลหากันมิเสื่อมมิคลายเลย ยามเข้าตาจนหน้าสิ่วหน้าขวานหาทองออกไม่ได้ นำอิ่นออกมาสวดคาถาแบบปิดทวารแล้วอธิษฐาน ด้วยจิตนิ่งแน่วแน่เชื่อมั่นศรัทธา ปาฎิหาริย์จะบังเกิด!!!

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
คุณต้องจำไว้ว่า
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬



ตัดกระดาษขนาดประมาณ 1.50 เซนติเมตร x 3 เซนติเมตร
เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สองคู่รัก หากไม่ทราบวันเดือนปีเกิดเขาก็ให้เขียนแค่ ชื่อ นามสกุล เท่าที่รู้ และคำอธิษฐาน แล้วม้วนกระดาษใส่เข้าไปภายในตัวอิ่น 

***ณ ขณะที่ตัดกระดาษ ลงมือเขียนอักษร จิตใจต้องสงบนิ่ง จิตต้องประภัสสร สุข สว่าง สงบ สดใส มีความเบิกบาน มีความสุขในแบบที่เราต้องการมี ต้องการเป็นต้องการได้ ระลึกให้เห็นภาพเรากับคนที่เรารักอย่างมีความสุขใจ เบิกบาน มีความรักความเมตตาความปรารถนาดี ส่งไปถึงเขา ส่งความรักความเมตตาไปกระทบจิตเขา นึกให้เห็นภาพเขา หากยังมีความกังวล หม่นหมอง เศร้าใจ อย่าเพิ่งเขียนเด็ดขาด รอให้จิตสงบๆก่อนค่อยเริ่ม  จงจำไว้ว่า อิ่นจะดลบันดาลในสิ่งที่คุณ ทำ พูด คิด อธิษฐาน และแสดงออก.. อิ่นจะแยกแยะไม่ได้ ว่าอันไหนคุณบ่น คุณประชด และอันไหนคือคุณอยากได้จริงๆ

❌❌หากขอเรื่องอื่นๆ เช่นขอเงิน ของาน ก็คิดให้เห็นภาพว่าเรามีเงินจำนวนมากๆ ได้งานที่รักพอใจแล้วจริงๆ 
❌❌หากขอเรื่องค้าขาย ก็ให้นึกภาพที่เราต้องการให้เกิดขึ้น คนหลั่งไหลมาซื้อของเรามากมาย เงินทองกองล้น สินค้าขายดีมาก
❌❌หากขอให้หมดหนี้สิน ก็ให้นึกภาพเรามีเงินทองมากมาย งานดี เงินดี ค้าขายดี ชีวิตดีมีความสุข
❌❌หากขอให้ผู้ใหญ่เมตตา คู่ค้าคู่ความเอ็นดูเมตตาให้ประโยชน์โชคลาภ ก็ให้นึกถึงหน้าเขาด้วยจิตใจที่ดีงาม มีความรัก ความกรุณาปราณีเมตตาต่อเขา
💥 สวดแบบปิดทวารก่อนอธิษฐานทุกครั้ง❗️❗️
❌❌อย่าลืมว่า "ต้องกระทำ" ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราอธิษฐานด้วย ทั้งการกระทำ คำพูด ความคิด ไม่ใช่อธิษฐานให้ขายดีแล้วนอนเกาพุงฝันหวานรอ ต้องทำงาน มีมานะ วิริยะ อุตสาหะ ต้องคิดพัฒนาร้าน คิดพัฒนาสินค้า เตรียมพร้อมรับลูกค้ามากมาย และเงินก้อนใหญ่ เพื่อให้ปาฎิหาริย์เกิดและคำอธิษฐานเป็นจริง

การเขียนคำอธิษฐาน ถ้าไม่ใช่เรื่องความรัก ก็เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของเจ้าของอิ่น และคำอธิษฐาน 1 เรื่องที่สำคัญยิ่ง ต้องการด่วน ลงไป


คาถาปลุกฤทธิ์ "อิ่น" คือ "คาถาสีผึ้งนางมัทรี" ท่องจำให้ได้ขึ้นใจห้ามอ่าน!! หมั่นสวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่นเช้า-ค่ำ กี่จบก็ได้สวดตามกำลังใจ มากจบยิ่งดี อิ่นคู่ใดเจ้าของหมั่นปลุกฤทธิ์ปลุกธาตุร่ายคาถา อิ่นคู่นั้นจะยิ่งศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์อิทธิคุณสูงยิ่งนักฯ. การหมั่นสวดคาถา คือการเชื่อมจิต เชื่อมบุญถึงครูบาอาจารย์ ขออำนาจบุญบารมีท่านมาเสริมกำลังบุญหนุนดวงชะตา ค้ำคูณเรา และเป็นการรวมจิตให้นิ่งมีกำลัง เพื่อทุกคำอธิษฐานจะสำเร็จ สัมฤทธิ์ผลเป็นจริงในเร็ววัน

"คาถาสีผึ้งนางมัทรี" สวดปลุกอิ่น ไม่ต้องว่า นะโมก่อน เพราะเนื้อคาถาเป็นเรื่องทางโลก ให้ว่าคาถาเลย เมื่อท่านบูชาอิ่น จงเข้าใจเคล็ดลับไสยเวทย์แห่งอิ่นด้วยว่า อิ่นคือความรัก ความเมตตา กรุณาปราณี อิ่นทำให้คนรักกัน เมื่ออยากได้ความรัก จงให้ความรักก่อน อิ่นดลบันดาลความมั่งคั่ง ลาภ ยศ เงินทอง ความสำเร็จ ท่านก็จงเป็นผู้หมั่นทำทาน รักษาศีลเป็นนิตย์ อิ่นมีฤทธิ์ทางมหาเสน่ห์เมตตา มหานิยม ท่านก็จงเป็นผู้มีจิตใจงามวาจาอ่อนหวาน พูดถ้อยคำมงคลอยู่เสมอ เพียงทำได้ดั่งนี้ "อิ่นเมตตาหลวง" ก็จะมีอำนาจดลบันดาลได้ดั่งแก้วสารพัดนึก 

"อิ่นเมตตาหลวง" คือจิตใจอันเมตตากรุณามีไมตรีจิต จิตเมตตากรุณาทำสิ่งใดย่อมสำเร็จ เป็นมหานิยม อุดมโชคลาภ "อิ่น"แทนกำเนิดทุกสิ่ง สัตว์ ภูติ เทวดา มาร พรหมล้วนเคยเกิดในโลก คนใช้อิ่นในทางชั่ว ย่อมมัวหมองบาปกรรมย่อมตามสนอง บาปกรรมจองเวรตามไปทุกชาติภพ " อิ่น " เป็นตัวช่วยในเรื่องโลกๆ ที่ยังต้องกินต้องใช้ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม ไม่ใช่เอาไปผิดศีล ทำร้ายทำลายกดข่มผู้อื่น ทุกศาสตร์ย่อมมีความหมาย ทุกความหมายย่อมพ้นความงมงายด้วยปัญญา คนดีจึงใช้ของดี ของดีย่อมทำลายใจอกุศล คำสาปวิชาจึงมีไว้ ผู้ทำกรรมเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น

อิ่นหรือรูปชายหญิงกอดกัน แสดงการกำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนาม แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า #ภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้ให้ตื่นจากความหลงความโลภความโกรธ จิตจึงเป็นอิสระ จากเครื่องผูกมัดกายใจ ลด ละ อัตตา เชื่อมโยงจิตวิญญานความรัก ความศรัทธา ด้วยความรัก ความเมตตา ความศรัทธา และความเคารพซึ่งกันและกัน ให้จิตตื่นรื่นเริงยินดีในการให้ มีความรัก ความเมตตา การให้อภัย อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน อันเป็นสุดยอดแห่งเสน่ห์ เมตตามหานิยม ที่มีอำนาจมหาศาลในการดลบันดาลทุกๆ สิ่งให้สมใจปรารถนา


อิ่นมหาเสน่ห์อันดับหนึ่งเบญจภาคีเครื่องรางล้านนานี้ เล่าขานกันว่า..อิ่นเป็นเครื่องรางชั้นสูง บ้านใดมีอิ่นไว้ในบ้านๆนั้นก็จะมีแต่ความรักไม่มีเรื่องให้ทะเลาะหรือผิดใจกัน เป็นเครื่องรางที่ควรมีติดกาย ติดบ้านเรือน ติดห้องนอนห้องหอ ชนชั้นสูง เจ้าขุนมูลนาย จะหวงแหนกันมาก จะมอบอิ่นอันศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่ไว้ให้ลูกหลานในวันแต่งงาน และเป็นของขวัญสูงค่าที่คนรักจะมอบให้แก่กันและกัน 
อิ่นเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก แรงมากในด้านมหานิยมมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เป็นที่หนึ่งด้านมหาเสน่ห์ มหานิยม ช่วยในเรื่องการเจรจาค้าขาย เข้าหาเจ้านาย เป็นที่รักของคนและเทวดา รวมไปถึง แคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจดลบันดาลพันช่องพันประการ กันภูตผีปีศาจ แม้แต่เทวดาอยู่บนชั้นฟ้า ยังต้องลงมาปกปักรักษาดูแลผู้ที่มีอิ่นไว้ครอบครอง


อิ่นเมตตาหลวงนี้ มีฤทธิ์ทางใจ ออกฤทธิ์ทางวาจาการเจรจา ทำให้คนทั้งหลายเมตตารักใคร่ บังเกิดเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รัก จากไปก็อาลัยคิดถึง เจรจาสิ่งใดก็น่าเชื่อถือ เข้ามาอุดหนุนแล้วก็อยากเวียนมาอีก ทั้งหมดนี้เป็นไปด้วยแรงเมตตา โชคลาภหลั่งไหล หนุนดวงเสริมวาสนาบารมี ก่อนจะใช้ .. ให้ตั้งจิตแน่วแน่ สวดคาถาปลุกฤทธิ์อิ่น .. แล้วอธิษฐานใช้ตามความปรารถนาใช้ได้ครบทุกๆ ด้าน เพียงแต่ว่าเจตนาของผู้ใช้ จะประสงค์สิ่งใด สำคัญ!! อยู่ที่จิต ขอให้จิตนิ่งแน่วแน่ ระลึกถึงครูบาอาจารย์ อยู่ในศีลธรรมคุณงามความดี ก็จะสำเร็จได้ดั่งอัศจรรย์ !!!




ผู้ใดมีอิ่นไว้ติดตัวย่อมมีอำนาจเหนือจิตใจของเพศตรงข้าม มีอำนาจในทางดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้เพศตรงข้ามคิดถึงตัวเราเสมอๆ เกิดความรักความต้องการที่จะใกล้ชิด อิ่นเมตตาหลวงเป็นเครื่องรางที่ดลบันดาลความรัก ความผูกพัน หากใครที่อยากมีความรักและอยากให้เขาก็รักเราเช่นกันก็ให้บูชาติดกายไว้หมั่นสวดปลุกฤทธิ์อิ่น ท่านว่าจะได้สมดั่งใจแลฯ

คนที่มีคู่อยู่แล้ว คู่เหินห่างไม่ค่อยใยดี ท่านว่าให้นำอิ่นเมตตาหลวง พกติดตัวทำการอธิษฐานต่ออิ่น ไม่ช้าไม่นานคู่รักจะคืนดีด้วยอย่างน่าอัศจรรย์ คู่สามีภรรยาที่แตกแยกกัน สามีนอกใจภรรยา ภรรยานอกใจสามี จะกลับมารักใคร่กลมเกลียวกัน ส่วนคู่ที่รักกันอยู่แล้วก็จะรักยิ่งๆ ขึ้นไป ผูกจิตให้รักผูกใจให้คิดถึงคะนึงหามิรู้ลืม มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น ให้บังเกิดความเมตตารักใคร่






























































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น